*** เนื่องจากปัญหาเรื่องโควิดที่รุมเร้า จนทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจทั้งประเทศและคนส่วนใหญ่ก็จะเก็บตัวอยู่กับบ้านไม่ออกไปไหน ไม่ออกไปร่วมชุมนุมประท้วง กลัวตายเพราะติดโควิด มากกว่าโดนแก๊สน้ำตา หรือ กระสุนยาง
เจ๊เมาธ์หวังว่า จะไม่มีการใช้ความรุนแรงมากไปกว่านี้ เพื่อดึงดูดความสนใจนะคะ
เอาไว้รอโควิดซา...อากาศดีๆ อาหารอร่อย ดนตรีไพเราะ ถึงตอนนั้น การจัดการชุมนุมก็อาจจะมีมวลชน มาสนับสนุนที่มากกว่าตอนนี้ค่ะ
*** ดูเหมือนว่า ข่าวลดค่าทวงหนี้ จะสร้างผลกระทบให้หุ้นในกลุ่มลีสซิ่งตัวเด่นอย่าง MTC SAWD และ TIDLOR ได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในส่วนของ TIDLOR รับผลกระทบมากกว่าหุ้นตัวอื่น เนื่องจากรายได้ค่าติดตามหนี้ สูงถึง 2% ของรายได้สุทธิ ค่าทวงหนี้ใหม่ ค้างชำระ 1 เดือน คิดไม่เกิน 50 บาท
ค้างชำระ 2 เดือนไม่เกิน 100 บาท และค่าลงพื้นที่ไม่เกิน 400 บาท ซึ่งในกรณีของ TIDLOR จะคิดค่าทวงหนี้รถจักยานยนต์ 100 บาท และรถยนต์ 200 บาท ในเดือนแรก ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ใหม่ที่กำหนดไว้ที่ 50 บาท ในขณะที่ค่าลงพื้นที่ของ TIDLOR สำหรับรถจักยานยนต์จะคิดที่ 1,000 บาท รถยนต์ 3,000 บาท ซึ่งก็เกินกว่าเกณฑ์ใหม่ที่กำหนดเอาไว้ที่ 400 บาท
ขณะที่ SAWAD ได้รับผลกระทบน้อยลงไปอีกหน่อย และในส่วนของ MTC ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดในกลุ่ม ส่วนที่ว่า ใครจะรักจะชอบตัวไหนก็ว่ากันไปนะคะ ส่วนเจ๊เมาธ์...เมื่อมีข้อมูลก็จะเอามาเล่าให้ฟังเจ้าค่ะ
*** ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ เพราะถ้าสังเกตให้ดี ช่วงนี้จะเห็นว่าหุ้นที่มีคนในตระกูล “พุ่มพันธุ์ม่วง” ทั้งคนพ่ออย่าง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และลูกๆ อย่าง รชต และ ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ขยับราคาขึ้นมาอย่างโดดเด่น
เริ่มจากทาง 7UP ที่ลากราคากันแบบโหดๆ ทั้งทางขึ้นและทางลงให้ได้เห็นกันมาแล้ว โดย 7UP มีพ่อลูก พล.ต.อ.สมยศ และ “รชต” ถือหุ้นรวมกัน 15% ขณะที่หุ้นตัวที่เริ่มโดดเด่นขึ้นมาใหม่อย่าง SDC (หรือ อดีตหุ้น “SIM”) กลุ่มเครือสามารถ...ก็ขยับ
ถึงหุ้น 7UP ในด้านราคาจะมีความดุเดือดเลือดพล่าน ตามตำหรับหุ้นร้อน แต่ถ้ามองแง่ชุดบอร์ดบริหารและแผนธุรกิจ ภายใต้การนำของ “น.ต.ศิธา ทิวารี” ประธานบอร์ด ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง ไตรมาส 2 บริหารดี-มีกำไร 49 ล้านบาท โต 99% ส่วนครึ่งปีแรก กำไร 152 ล้านบาท หรือโต 160.9%
ด้วยผลประกอบการนี้... ในด้านปัจจัยพื้นฐาน ค่า P/E จะลดลงมาต่ำกว่า 34 เท่า และราคาน่าจะวิ่งไปได้ถึง 1.70 โดยไม่ติดเกณฑ์แคชบาล๊านซ์... เจ๊คิดว่า 24 ส.ค.นี้ หุ้น 7UP ไม่น่าจะถูกต่อเวลาแคชบาลานซ์อีก... ฉะนั้น 25 ส.ค.นี้ เป็นไท แน่นอน
อย่างไรก็ตาม... ด้วย Pattern ขอราคา เจ๊ก็ขอเตือนว่าอย่าวางใจไป หากใจไม่แข็งพอ ไม่นิ่งพอ ก็ควรหลีกเลี่ยง...
*** กลับมาที่หุ้นตัวเด่น WP ขยับตัวแรงขึ้นมาเช่นเดียวกัน เพียงแต่จะต่างกันไปบ้างที่ WP ดูเหมือนว่าจะเป็นฐานกำลังที่แท้จริงของคนนามสกุล “พุ่มพันธุ์ม่วง” ทั้ง 3 นอกจากที่ WP จะมีสินทรัพย์และผลการดำเนินงานที่จับต้องได้ ซึ่งการที่ 3 พ่อลูก “รชต-ชมกมล-บิ๊กอ๊อด” ถือหุ้นใน WP รวมกันมากกว่า 30% มันทำให้มองได้ว่า WP คือฐานกำลังของคนตระกูลนี้ การขยับของ WP ทำให้ทั้ง 3 พ่อลูก ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ อย่างแน่นอนค่ะ
*** หลังจากหุ้น APURE ไล่ราคาขึ้นไปถึง 9.75 บาท ก็เริ่มตื้อ แต่สำหรับเจ๊เมาธ์ มองว่า APURE ยังมีโอกาสที่จะไล่ราคาขึ้นไปได้อีก เรื่องแรก จากผลการดำเนินงานที่ดูดี และเงินบาทที่อ่อนค่าที่ลงไปแตะ 33.5 บาท ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี นั้นเอง
ส่วนอีกเรื่องคือ “การแจก” หลังจากที่มีการประกาศผลการดำเนินงาน 2/64 ส่วนของแจกที่ว่าจะเป็นอะไร เจ๊เมาธ์คงจะยังพูดเต็มปากไม่ได้ เพราะอาจจะมีปัญหาว่า ล้ำเส้นมากไปหน่อย
แต่เจ๊บอกได้แค่ว่า เป็นข่าวดีมากแน่นอนเจ้าค่ะ