*** ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขึ้นสูงที่สุดในรอบหลายปี บวกกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) อายุ 10 ปี ของสหรัฐ และอีกหลายประเทศรวมทั้งไทย ปรับขึ้นมาอีก ทำให้เรื่อง “เงินเฟ้อ” กลับมาเป็นประเด็นความกังวลอีกครั้ง
“เงินเฟ้อ” หรือ “เงิน” มีมูลค่าน้อยลง ทั้งที่มีเงินอยู่จำนวนเท่าเดิม แต่ซื้อของได้น้อยลง สินค้าแพงขึ้น นั่นเอง ซึ่งทำให้หุ้นในกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก การเงิน ปิโตรเคมี สถานีบริการน้ำมัน ผู้รับเหมาก่อสร้าง โรงไฟฟ้าพลังงานดั้งเดิม อิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม ปศุสัตว์ กองรีท และสื่อสาร ได้รับผลกระทบในทางที่เป็นลบ
ส่วนกลุ่มหุ้นหลักที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จาก “เงินเฟ้อ” ได้แก่ ธนาคาร ประกันชีวิต พลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ นิคมอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ค้าปลีก และขนส่งมวลชน เพราะเงินเฟ้อมีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาขายสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งส่งผลดีต่อตัวเลขรายได้รวมจากการขายสินค้าและอัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit margin) ที่ปรับเพิ่มขึ้น
ดังนั้น การจะตัดสินว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นผลบวก หรือ ลบ ก็ต้องพิจารณาดูว่าเราได้เตรียมตัวให้พร้อมหรือยัง เพราะสุดท้ายผลกระทบที่มีจะมากหรือน้อย ก็มีสาเหตุมาจากการเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้นั้นเองเจ้าค่ะ
*** เส้นทางนักลงทุนของ “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) น่าสนใจมาก เพราะหุ้นหลายตัวที่ “เสี่ยชูชาติ” เข้าไปลงทุนถือว่าประสบความสำเร็จ ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง เช่น หุ้น โซลาร์ตรอน (SOLAR) ที่ “เสี่ยชูชาติ” ถือหุ้นอยู่ 5.52% ขณะที่ “ศึกษิต เพชรอำไพ” ก็ถือหุ้นอยู่ 11.99% ต้นทุนที่ต่ำกว่า 1 บาท จนปัจจุบันราคาขยับขึ้นมาถึง 2 บาทกว่า ๆ
ขณะเดียวกัน “เสี่ยชูชาติ” ยังมีหุ้น ITEL 4.35% หุ้น JR 2%, TKS 1.08% และ WINMED 0.25% ล่าสุดเข้าไปเก็บหุ้น XPG รวมถือ 7.7%
ถึงแม้ว่าหุ้นทั้งหมดที่ว่ามาไม่ให้ผลตอบแทนที่ดีทุกตัว แต่หุ้นที่ “เสี่ยชูชาติ” เข้าไปลงทุน มักจะดีจนถึงดีมากในระยะยาว ดังนั้นการที่นักลงทุนเบอร์ใหญ่อย่าง “เสี่ยชูชาติ” เข้ามาลงทุนใน XPG เพิ่มขึ้น จึงทำให้นักลงทุนหลายคนกล้าที่จะเดินตาม...จนถึงกับต้องวิ่งตามกันเลยทีเดียว
ต้องมาจับตาดูกันว่าในอนาคต XPG จะขยับราคาไปได้ถึงเท่าไหร่กัน เพราะการเข้าไปของ “เสี่ยชูชาติ” ทำให้นาทีนี้ XPG น่าสนใจจริงๆ
น่าสนใจจนไม่รู้ว่า ละเลยทำธุรกิจและสนุกเกินไปกับการเช่นหุ้นหรือไม่?!?
*** ไม่น่าแปลกใจที่ราคาหุ้น GUNKUL ขึ้นมายืนเหนือ 5 บาท แต่ที่แปลกใจมากคือ ทำไมพึ่งขยับ ล่าสุด GUNKUL ได้ส่ง “จี.เค.เฮมพ์ กรุ๊ป (GKHG) บริษัทย่อยเข้าไปถือหุ้นในบริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด (THCG) สัดส่วน 50% รวมมูลค่า 250 ล้านบาท เพื่อการลงทุนในกิจการที่เกี่ยวกับกัญชงและกัญชา ตั้งแต่ปลูก ผลิต และจำหน่ายสินค้าที่ได้จากกัญชง และกัญชา
ดูท่าทางแล้ว GUNKUL น่าจะไปได้ไกลกว่านี้ เอาเป็นว่ามีพรายกระซิบว่าอาจจะได้เห็นเลข 2 หลักกันเลยเชียวนะคะ ส่วนจะจริงหรือไม่...มันก็ต้องดูกันต่อไปเจ้าค่ะ
*** การที่ราคาหุ้น GULF ของเสี่ยกลาง “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ขยับขึ้นมาทำราคานิวไฮอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีแค่เรื่องรายได้ที่มาจากผลการดำเนินงานของ GULF หรือเป็นเพราะเงินปันผลที่ได้เพราะ GULF เข้าไปถือหุ้นในหลายบริษัทแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สาเหตุที่หุ้น GULF แรงได้แบบนี้ เป็นผลมาจากมุมมองการดำเนินธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้าไปอยู่ในระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น การลงทุนท่าเรือร่วมกับกลุ่ม ปตท. ทั้งท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และท่าเรือแหลมฉบัง จับมือกับกลุ่ม BTS ไปลงทุนงาน O&M มอเตอร์เวย์ ลงทุนเข้าไปถือหุ้นใน INTUCH จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 42.25% ขณะเดียวกันก็เตรียมจับมือกับ “สิงเทล” ตั้งบริษัทร่วมทุนด้านการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลอีกด้วย
การจับมือกับ “สิงเทล” เป็นบันไดอีกขั้น ที่ทำให้ GULF ขยับออกจากการเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ เพื่อขึ้นไปสู่ระดับภูมิภาคที่ใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ จับตาดูให้ดีนะคะ GULF น่าสนใจมากค่ะ
*** เจ๊เมาธ์ เกริ่นไปแล้วว่า ฉบับนี้ มีเรื่องลือ รับรองว่าแซ่ดดดดด รับรองตื่นเต้นไม่แพ้น้ำท่วม เรื่องโก ๆ ของ อดีตมาร์เก็ตติ้งตลาดหุ้น สร้างภาพ นักบุญ-คนบาป ในคราบนักธุรกิจการเงิน...ที่ลอยหน้าเดินอยู่ในสังคม อย่างไร้ความรู้สึกผิด หรือ ถูก เที่ยวหลอกคนไปทั่ว คนรอบตัว คนสนิท ก็ไม่เว้น
เรื่องที่เจ๊เมาธ์ ได้ยินมา สดๆ ร้อนๆ ตาราง-คุก เลยล่ะคร้า...ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุกหลายปี คดีชักดาบ เช็คติดสปริง มูลค่านับร้อยล้านบาท ...นี่แค่คดีชุดที่ 1 ยังเหลืออีกหลายชุด เป็นคดีตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุก นำไปก่อนแล้ว ศาลอุทธรณ์ตัดสินเพิ่งจบ แว่วๆ ส่งทนาย ขอเคลียร์ ...จะเคลียร์จบคดี หรือเคลียร์จ่ายเงิน สงสัยไม่ทันแล้วล่ะมั๊ง
ยังไม่หมดแค่นี้เจ้าค่ะ ที่เจ๊เมาธ์ ได้ยินมา ระเบิดเวลาลูกใหม่ ใกล้เข้ามาล่ะ มีประชาชนไปร้องเรียน มีเคสใหม่ แอป ปล่อยเงินกู้ แต่ให้โอนเงินประกัน ค่าธรรมเนียม ไปก่อน 5,000 บาท จะให้ยืมเงินแต่ต้องเสียเงินก่อน ไม่นานคงได้เห็นคนออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ...เป็นระเบิดลูกใหม่ของนางคร้า
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,721 วันที่ 10 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2564