เรื่องราวของ “หนุ่ม ศต.” ร่างใหญ่ ผู้โลดโผนในการระดมทุนยังไม่จบเพียงเท่านี้ หลังจากที่นักลงทุนหลายคนโดนหนุ่มคนนี้แอบอ้างกันไปหลายยก
หลังจาก “เจ๊เมาธ์” ไปสืบเสาะหลายแหล่งข่าว ก็พบว่า แท้จริงแล้วหนุ่มร่างโตคนนี้ จบการศึกษาจากต่างประเทศ จากนั้นก็ไปทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่ปรึกษา ส่วนใหญ่ชอบทำดีลใหญ่ๆ ให้กับผู้ใหญ่ โดยใช้บุคลิกและหน้าตา หลอกลวงแอบอ้างตน จนได้ดิบได้ดี เข้านอก-ออกใน ได้เข้าไปยุ่งกับลูกสาวของผู้ใหญ่หลายคน จากการแอบอ้างว่าตัวเองมาจากครอบครัวนามสกุลใหญ่โต มีทรัพย์สินมากมาย
อีกทั้งยังมีอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของเครื่องดื่มบำรุงร่างกายเด็ก รู้จักและสนิทสนมกับผู้ใหญ่ระดับประเทศอย่าง “เสี่ยใหญ่” โรงปูน สารพัดที่ HE จะหยิบยกมาอ้าง ยังดีนะที่ไม่อ้างเป็นลูกหลานคนไกลต่างแดนดูไบ
ทั้งที่จริงๆ แล้ว HE ไม่เคยมีประวัติใด ๆ ที่สร้างเกียรติภูมิน่ายกย่องของระบบตลาดทุนเลย น่าแปลกใจกันมั้ยค่ะ
หลายครั้งที่ HE ชอบเคลมว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดหุ้น ไม่เท่านั้นยังเคลมอีกว่า ตัวเองเป็นลูกรักของพรรคการเมืองดัง ที่ชอบทำบิ้กโปรเจ็กต์ เคลมขนาดนี้จะไม่เชื่อในความใหญ่โตของ HE ได้ยังไงเนี่ย
เวลา HE ไปดีลงานที่ไหน จะเคลมว่าเป็นมือขวา เป็นคนสนิท ที่ดูแลการลงทุนให้กับคนดังชั้นนำ สร้างความน่าเชื่อถือ ...หนุ่ม ศต.คนนี้มาฟอร์มเดียวกับ “ไฮโซเก๊” เพชรเม็ดโต ของตลาดทุน
การเคลมว่า เป็นมือขวาคนดัง นี่แหละที่ดึงบริษัทในเครือ เข้ามาร่วมธุรกิจ กับบริษัทแพ็จเก็จจิ้ง รายหนึ่ง ตีข่าวใหญ่โต
สุดท้ายไม่มีความร่วมมือใดๆ เกิดขึ้น, การลงทุนในไทรทันฯ (TRITON ) หรือ อสังหาฯ ที่กำลังฟื้นฟู PACE โดยมีกองทุน Asia ..a ที่ HE สร้างขึ้นมา แล้วเสกหายเข้าไปในกลีบเมฆ กลายมาเป็นของหนุ่ม ศต. แทน กำลังเป็นข้อครหาสำคัญ
ยังไม่หมดเท่านี้ หนุ่มคนนี้ ยังอ้าง “คอนเน็กชั่น” ของตัวเองไปยันถึง White House, Bill Gates, Vatican, Donald trump ไปจนถึงผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันอย่าง Joe Biden เอากับเขาสิ!!!
แต่พอไปสืบประวัติลึกๆ แล้ว พบว่า ธาตุแท้จริงแล้วหนุ่มคนนี้มีพ่อทำงานที่บริษัทเครื่องดื่มบำรุงกำลังเด็ก และแม่ก็เป็นแม่บ้านเฉยๆ นี่แหละค่ะคุณ
ส่วนทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ พร้อมโรงแรมเมืองไทยอีก 2 แห่งที่ HE ป่าวประกาศไปทั่ว
แท้จริงแล้วแอบอ้างมาทั้งนั้น ไม่ได้เป็นของตัวเองเล้ยยยย อันนี้ผู้คนวงไฮโซเขาแจ้งมา
ไม่จบเพียงเท่านี้ หนุ่มคนนี้ยังพราว พูดภาษาจีนทางโทรศัพท์ โชว์ความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนหลายคน แต่กลับกลายเป็นการพูดทิพย์ หรือ คุยคนเดียวนั่นเอง 55555
วงไฮโซสืบลึกเข้าไปอีก พบว่า หนุ่มคนนี้เคยอยู่กระทรวงการคลัง มีการก่อตั้งกองทุน แล้วก็โดนดี จนต้องเผ่น แล้วก็ไปก่อตั้งกองทุน Prime street แล้วสุดท้ายก็จบแบบไม่ดี อีกเช่นกัน
หลังจากแอบอ้างว่า ตัวเองเป็นที่ปรึกษามากมาย จนคนหลงเชื่อและเข้ามาปรึกษา พอชำระค่าปรึกษาไปแล้ว ถึงตอนที่ต้องแก้ปัญหาจริง ๆ ทำไม่ได้ เชิดเงินหายไปในกลีบเมฆอีกเหมือนเดิม
หลังจากไต่เต้ามาได้จนเข้าไปเป็นที่ปรึกษาใครต่อใครก็มารูปเดิม คือการก่อตั้งกองทุน
นักลงทุนบางคน ยังนึกว่าหนุ่มคนนี้เป็นลูกเขยมหาเศรษฐี, น้องชายมหาเศรษฐี, ญาติมหาเศรษฐี เพื่อหลอกเงินจากนักลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ จนเรียกตัวเองว่า “เสี่ย จ ... ”
ป้องปากซุบซิบกันว่า หลังจากหลอกตุ๋นนักลงทุนไปหลายราย หนุ่มรายนี้ก็ไปซุกอยู่กับนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่ง
สุดท้ายมาแนวเดิมคือ กำลังวางแผนจะก่อตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในตลาดธุรกิจกัญชง-กัญชา และยังอ้างไม่เลิกว่า ตัวเองเป็นลูกรักนักการเมืองใหญ่
HE มี connection มากมายจะทำให้ได้ใบอนุญาตกัญชง-กัญชา เป็นเจ้าแรกอย่างแน่นอน
ที่สุดท้ายหนุ่มคนนี้ ก็จะทำแบบเดิมคือ หลอกเงินจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
มี “นักตุ๋น” ปากสาริกา อยู่ในตลาดทุน-ตลาดเงิน อีกคน ก็ไม่รู้สินะทางการ หน่วยงานตลาดทุน จะตรวจสอบ ป้องกัน ไม่ให้เกิดความเสียหายได้อย่างไรบ้าง...