อนึ่งขออนุญาตกล่าวถึงไว้เสียในที่นี้ว่า ดอกโสน (สะ_หนโ) มันไม่ได้บานเช้า ดอกสะเดา มันไม่ได้บานเย็น ความเปนจริงแล้วมันกลับกันหรอกน่ะ คนเพลงเขาแต่งไว้ตำหนิผู้หญิงปลิ้นปล้อน ว่าแหม_แม่ดอกโสนบานเช้า, ดังนี้
เกิดไปเชื่อตามเพลงออกไปเก็บดอกมากินผิดเวลาก็อดหากินกันพอดี!
ในวัน_เวลาแห่งชายทุ่งรวงทองนั้น โสนทำไข่เจียวแบบแบนๆอร่อยนักหนา ยามพายเรือไปเก็บต้องเลือกเอาโสนไทยต้นเล็กๆดอกสีอ่อน โสนแอฟริกันต้นใหญ่ก็จริงแต่กินแล้วมึนหัว โสนไทยๆเอาโรยปากหม้อยามหุงข้าว กินด้วยข้าวกล้องหุงใหม่ๆ ได้รสละเอียดไอหอมละออแห่งชายทุ่งรวงทอง เติมความเปนด่าง_อัลคาไลน์ให้แก่ระบบเลือดร่างกายไม่เหนียวข้น
ขนมโสนอันเปนขนมชายทุ่งรวงทองในวัฒนธรรมข้าวเจ้าก็หาคนทำกินยากแล้ว มันเริ่มต้นจากขนมขี้หนูแล้วต่อยอดด้วยดอกโสน โรยมะพร้าวขูด บางเจ้าเริ่มที่ขนมรังไรแล้วต่อยอดด้วยดอกโสน ราดน้ำกะทิ
อันว่าของงามของสวยอย่างดอกไม้นั้น เชยชมอย่างเดียวไม่พอ_ต้องกิน ยานนิค เจ้าของภัตตาคาร ‘เลอ อิเลฟเฟ่น’ ณ หลวงพระบาง วางฝีมือเก่าทำข้าวฝรั่งเศสรสหนาหนัก เอามาทำกับข้าว วีแกน ซึ่งก็นิยามอย่างไรไม่ทราบชัด แต่ว่ามีการงดเนื้อสัตว์แลนมเนย เขาเอาดอกมัสตาร์ด, ยอดของมัน, แครอทฝานแตงแคนตาลูป ปนๆกัน โรยเปรี้ยวมะเขือเทศแห้ง รับประทานกับข้าวกล้องน้ำปรุง รสชาติ nutty งามดี อร่อยตามสมควร และอิ่มท้องแบบเบาๆ
ส่วนบ้านเรานั้น ยามวิกฤตการณ์เศรษฐกิจมาเยือน ‘ต้น’ ทุนเงินกู้มันก็ได้ดินดีผลิออกบานพาลออก ‘ดอก’_เบี้ยเสียเต็มทุ่งนาการค้า อย่ากระนั้นเลยดอกอะไรเก็บกินได้ เอามาแพ็คขายผู้บริโภคกันดีกว่า
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 17 ฉบับที่ 3,743 วันที่ 26 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564