อีหมี่

05 ก.พ. 2565 | 04:38 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.พ. 2565 | 09:28 น.

คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

อีหมี่มันเปนของทำกินยาก โดยมากแล้วเปนกับข้าวในสกุลราชวงศ์_เปล่าหามิได้เกี่ยว
 

ข้องแก่พระ royal family แต่อย่างไร หมายถึงว่าประดาร้านรวงภัตตาคาร ที่ตั้งหาบตั้งร้านทำ
 

การประดิษฐวิเศษโภชนารสเลิศอยู่ตรง ท่าน้ำราชวงศ์ ซึ่งเปนภาษาไทยอันสละสลวยของ กงซีล้งตรงท่าน้ำเจ้าพระยาตอนใต้ของเยาวราชหรอกตะหาก
 

ที่ยืนยงมาจนบัดนี้ก็คือ สีฟ้า ภัตตาคาร เจ้าของสโลแกน คิดถึงสีฟ้าเวลาหิวนั่นปะไร 
 

ทำกับข้าวสไตล์ ราชวงศ์
 


อีกร้านก็ อาเล็กราชวงศ์ ชื่อไทยว่า โภชนาลัย ไพเราะจับจิต เปิดว่าการครัวในสไตล์ราชวงศ์อยู่ตรงแถวการบินไทยสำนักงานใหญ่ วิภาวดี ตรงเวิ้งโนแฮนด์ภัตตาคาร พระราม 4 ก็เคยมีเจ้าหนึ่ง เวลานี้ลาร้างไปยังหาไม่พบเลยเจ้าฝีมือดีๆนั้นท่านนวดแป้งทำเส้นอีหมี่เอง ตอกไข่แดงสดใส่ปนลงไปนวดด้วย ได้เส้นเบาบางแต่มีน้ำหนักของมวลไข่ปนอยู่อย่างหนาแน่นในมวลอณูเบาบางอันนั้น
 

ได้เส้นอันยืดแผ่มาแล้ว ก็เอาไปต้มลวกในน้ำซุปโอชา อันเปนนัยยะว่าเพื่อให้เส้นบะหมี่นั้นซึมซาบเอาความโอชะแห่งน้ำซุปนั้นเข้าไว้ในตัวเสียให้มากพอดี สะบัดขึ้นมาแล้วเอามาเจี๋ยนด้วยน้ำมันน้อยๆในกระทะเหล็กหล่อถึงไฟเตาถ่าน เจี๋ยนเสีย ให้กรอบกรับหอมกลิ่นระรวยไฟเหล็กอันระอุไอนั้น 
 

สุกดียกขึ้นมารองจานด้วยกุยช่ายขาวสับหั่นเอากลิ่นบางเบาแห่งมันยามเมื่อต้องน้ำมันร้อนๆมาชูรสเพิ่ม


อีหมี่นี้เปนของกินรสสุภาพ เขาเลี่ยงกลิ่นหนักฉุนหอมของต้นหอมเเลกระเทียม ได้จังหวะดีแล้วเอาแฮมสับโรย อกไก่ต้มฉีกโรยเสีย มีสตางค์มากเอาเนื้อปูโรย
 

ยามจะกินแล้วต้องโรยอีกสองอย่าง คือน้ำตาลทรายขาว และ น้ำส้มดำ_จิ๊กโฉ่ว 
 

ตักเข้าปากกรอบกร้วมหอมระรวยชวยอ่อนสรรพกลิ่นสรรพโอชา
 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 18 ฉบับที่ 3,755 วันที่ 6 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565