ถ้าจะบอกว่าการปล่อยให้ บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 ให้กลับมาซื้อขายหุ้นอีกครั้ง คือการ “ปล่อยผีออกจากหลุม” ก็ไม่น่าจะผิดไปจากความจริงไปสักเท่าไหร่ แค่อาจจะผิดไปบ้างก็ตรงที่ผีตัวนี้ “โหด” และ “เฮี้ยน” มากกว่าที่หมอผีที่คุมเกมคิดเอาไว้ก็เท่านั้นเอง
ความโหดที่แท้จริงของ A5 ไม่ได้พึ่งจะเกิดขึ้นแค่การทุบจากราคาเปิดตัว 9 บาท ลงมาเหลือ 2 บาทกว่าๆ ในวันที่ 7 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ได้กลับมารีซูมเทรดเท่านั้น เรื่องมันปูพื้นมาตั้งแค่ก่อนที่จะได้กลับเข้ามาซื้อขายเพราะชื่อ A5 นี้มีข้อมูลสั้นๆ ให้รู้กันแค่ว่าราคาสุดท้ายก่อนที่จะถูกห้ามซื้อขายอยู่ที่ราคา 14.00 บาท เพียงอย่างเดียว
แต่ถ้าตามข้อมูลกันอีกหน่อยก็จะรู้ว่าราคาหุ้นของ บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น หรือ ADAM ซึ่งเป็นชื่อเดิมก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น A5 นั้นได้ถูกดันราคาขึ้นมาจากหุ้นราคา 1.46 บาท เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2557 ขึ้นไปอยู่ที่ 14.00 บาท เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2557 ก่อนที่จะถูกห้ามซื้อขาย ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 858% หรือ 12.54 บาท ในเวลาเพียง 3 เดือน
ยัง...ยังไม่หมด ความโหดล่าสุดของ A5 ในวันที่กลับมาซื้อขายวันแรก เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 65 ที่ถูกเปิดออกมาอีกคือ การที่ นายเกรียงไกร ศิระวณิชการ ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ A5 ในวันแรกเทขายหุ้นจำนวน 35,065,150 หุ้นออกมาผ่าน บล.เอเอสแอล ทำให้ นายเกรียงไกร มีหุ้นเหลือ 270 ล้านหุ้น จากเดิมที่มีหุ้นอยู่จำนวน 305,065,150 หุ้น
โดยหากคำนวนจากราคาปิดที่ราคา 2.22 บาท ในวันที่ขายหุ้น ก็หมายความว่าสามารถขายหุ้นได้เงินเข้ากระเป๋าไปอย่างน้อยๆก็ราวๆ 70 ล้านบาท
แน่นอนว่าเงินกว่า 70 ล้านบาท ที่ว่าอาจไม่มากเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นที่เหลืออยู่จำนวนถึง 270 ล้านหุ้นของนายเกรียงไกร แต่ถ้าจะบอกว่า ก่อนที่จะขยับขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ A5 นายเกรียงไกร เคยตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น ADAM (Tender Offer) มาในราคาต้นทุนเพียงแค่ 7 สตางค์ ซึ่งเมื่อคำนวนจากต้นทุนหุ้นละ 7 สตางค์ ก็หมายความว่าหุ้นจำนวน 305 ล้านหุ้น ที่เคยมีของ นายเกรียงไกร จะมีต้นทุนที่คิดเป็นเงินทั้งหมดอยู่แค่เพียง 20 กว่าล้านบาทเท่านั้น
ดังนั้น เงินกว่า 70 ล้านบาท ที่ได้จากการขายหุ้นล็อตแรกจำนวน 35,065,150 หุ้น ที่ว่านี้ จึงครอบคลุมราคาต้นทุนของหุ้นจำนวน 305 ล้านหุ้นเอาไว้แล้วทั้งหมด แถมยังมีกำไรที่คิดเป็นเงินอีกเกือบ 50 ล้านบาท และมีหุ้นที่เหลืออยู่อีกจำนวนถึง 270 ล้านหุ้น โดยมีราคาหุ้นหน้ากระดานอยู่ที่ 2 บาทกว่าๆ ซึ่งคิดเป็นเงินแล้วมากกว่า 500 ล้านบาทเหลืออยู่อีกด้วย
สำหรับนายเกรียงไกร เป็นทั้งนักลงทุน ผู้บริหารบริษัทแคปปิตอลลิงค์ เป็นวาณิชธนกิจ ที่ปรึกษาการเงิน-การลงทุน ทำธุรกิจตรงไป-ตรงมา คนวงการคาดว่า การขายหุ้นออกมาบางส่วน เป็นการตัดเส้นทางปั่นหุ้นของกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่กำลังไล่ล่าทำราคาหุ้นหวังการขายหุ้นราคาสูง ซึ่ง นายเกรียงไกร ไม่เห็นด้วย จึงได้ถอนตัวออกจากการเป็นประธานกรรมการ A5 ทันที เมื่อ 10 มี.ค ที่ผ่านมา
ที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงเกมราคาเท่านั้น นี่ยังไม่นับเอาสารพัดเรื่องฉาวก่อนที่จะถูกห้ามซื้อขายมาอ้างถึงเลยด้วยซ้ำ จากนี้ไปก็ยังไม่รู้ว่าหุ้นครบสูตรความโหดอย่าง A5 จะสร้างเกมการเงินออกมาในรูปแบบไหนอีกบ้าง แต่ก็มั่นใจได้เลยว่าไม่น่าจะหลุดไปไกลจากสิ่งที่เคยทำมาก่อน นั่นก็คือ จะต้องมีครบทั้ง “โหด” และ “เฮี้ยน” รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน