คิดพหูสูตพูดอัจฉริยะ ฉากที่ 7 ความจริงคือบ่อเกิดของเกียรติ

23 เม.ย. 2565 | 01:16 น.
อัปเดตล่าสุด :23 เม.ย. 2565 | 08:25 น.

คิดพหูสูตพูดอัจฉริยะ ฉากที่ 7 ความจริงคือบ่อเกิดของเกียรติ คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3777

แฟนทักว่า “ไปไหน หนูอยู่คนเดียว เหงานะ” สามีพูดว่า “ถ้าอยู่กันสองคน เราจะเหงาทั้งคู่” (ฮา) เข้าใจว่าสามีคงจะเป็นแฟนคลับ โยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่ นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ นักเขียนชาวเยอรมัน ท่านมีแง่คิดที่อ่านแล้วคล้ายกับโดนฉีดยางอายเข้าเส้นเลือดว่า “ความอัจฉริยะคือความรักในความจริง!”


“ความจริงคือบ่อเกิดของเกียรติ” ร้านแม่พระ คือ ร้านที่ขายของแท้ ร้านแม่มด คือ ร้านที่ขายของเก๊  สำหรับ ร้านแม่วางมือ ไม่ขอพูดถึง เพระว่าไม่ได้อยู่ในวาระการประชุม (ฮา) 

ครู คู่รัก นักกู้ นักขาย นักบวช ผู้นำสังคม นักเขียน วิทยากร นักพูด โดยเฉพาะ นักใบ้หวย ชะตาจะไปได้สวยถ้าเขามีศีลข้อที่ 4 พกติดตัวเป็นใบเบิกทาง ถ้าเซียนตะกรุด กลายเป็น เซียนตะกละ ลักไก่เอาแผ่นโลหะมาม้วนเลียนแบบมีแววม้วยเสื่อฉันใด “นักพูด” จะเป็น “นักปู้ด” เพราะเรื่องที่เอามาพูดเป็นเฟคนิวส์ฉันนั้น

 

นักบวชท่านหนึ่งเดินผ่านมาเห็นหนุ่มคนหนึ่งโดนงูกัด ท่านชะงักเพราะไม่มียาแก้พิษพกติดตัว พื้นที่เกิดเหตุก็อยู่ห่างหมอไกลลิบ ท่านจึงตัดสินใจประกาศความสัตย์กลางป่าว่า

“ข้าพเจ้าจักขอสารภาพความสัตย์ท่ามกลางป่าเขา ณ บัดนี้ ว่า ที่ ข้าพเจ้า ครองจีวรถือบวชผ่านมา 30 ปี ข้าพเจ้าไม่ได้มีความศรัทธาแม้แต่น้อย เหตุที่ ข้าพเจ้า ยังคงวางตัวเป็นผู้ถือบวช ก็เพราะเคยสัญญากับผู้คนในหมู่บ้านไว้ว่า จะบวช ถ้าข้าพเจ้า ไม่ทำตามที่กล่าวไว้ ก็จะอยู่อย่างลำบาก ข้าพเจ้า ขออาศัยผลานิสงส์จากการกล่าวความสัตย์นี้ มาเป็นตบะเดชะอันประเสริฐจงมาช่วยบำบัดให้มาณพท่านนี้จงหายเจ็บป่วยจากพิษงูด้วยเถิด” 

ช่างเป็นความอัศจรรย์พันลึกยากที่จะอธิบาย ที่หนุ่มคนนั้นรอดตายจากพิษงูสมดังใจนึก เรื่องนี้มีเนื้อความบันทึกเอาไว้ในพระสุตตันตปิฎก ชี้แจงไว้ด้วยว่า นักบวชท่านนั้นเป็นหนึ่งในนานาอดีตชาติของพระพุทธองค์ (สาธุ อนุโมทามิ)


นักพูด คือ โชว์รูมจัดวางความจริง เขาจะได้รับการประทับตรา ทว. ยืนยันจาก ท้าวเวสสุวรรณ (ฮา!) เพื่อยืนยันว่าเป็น “สัตย์โลกที่ไว้ใจได้” จะเห็นได้ว่า ผู้ประกาศข่าวจะขอโทษเสมอเมื่อรู้ว่านำเสนอผิดพลาด ผมเคยคลานสี่เท้าในวัยเด็ก ต่อมาวัยหนุ่มก็เดินป่าสี่เท้าตอนปีนขึ้นเนินเขา วันนี้เดินสองเท้ามีหรือจะไม่พลาด 


รอบนี้ผมขอลากไส้ให้สังคมได้รู้ว่า ก่อนจะเขียนแต่ละเรื่อง นอกจากคิดเองยังต้องออกล่าความรู้จาก Guru นำมาจัดเรียงเอาไว้ยาวพรื่ด จากบนลงล่างติดกันโดยไม่เว้นบรรทัด ล่าสุดพิมพ์ไปใจลอยไปจึงก๊อปปี้ข้อมูลผิดบรรทัด


“ชีวิตที่ปราศจากพระคริสต์ ก็เหมือนเครื่องดูดฝุ่นที่ไม่ได้เสียบสายไฟ ไม่มีพลังดูดสิ่งสกปรก”


Don Wilton


“ไม่เคยมีเด็กที่น่ารักขนาดนี้มาก่อน แต่แม่ของเขาดีใจที่ได้เขาหลับ”


Ralph Waldo Emerson


“ปุ่มเลื่อนปลุกของเราไม่มีอำนาจที่จะชะลอไม่ให้ดวงอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า เวลาไม่เคยรอใครเลย”


Ted Robbin


“ไก่งวงไม่เคยลงคะแนนให้ต้นคริสต์มาส”


คำคมไอริช


แทนที่จะก๊อปปี้บรรทัดที่หนึ่งที่มีคำคมกับบรรทัดที่สองที่มีชื่อเจ้าของคำคม ผมก็ก๊อปปี้บรรทัดที่สองกับบรรทัดที่สาม มันกลายเป็นว่า ผมเอาคำคมของท่านนั้นมาใส่ชื่อของท่านนี้ ผมอ่านทบทวนหลังจากลุยงานลูกค้าลุล่วง ใจร่วงลงตาตุ่ม จะบอกให้แก้ไขก็ไม่ทัน เพราะตีพิมพ์ไปแล้วเรียบร้อย 

                                คิดพหูสูตพูดอัจฉริยะ ฉากที่  7 ความจริงคือบ่อเกิดของเกียรติ
ในใจก็คิดอยู่ว่า งานนี้เราจะไปเข้าพิธีบังสุกุลเป็นที่วัดไหนดี จำได้ว่ามีอยู่ที่หนึ่งเขาทาสีโลงเล่นสีสันตามวันเกิดเพื่อสื่อถึงเราให้นอนถูกโลง (ฮา!) ผมไม่มีวาสนาประกาศกลางป่า ขอประกาศความสัตย์ท่ามกลาง “ป๋า” (ฮา!) ด้วยการกราบเท้าบรรเทาโทษจาก “ป๋า”  และ ผู้อ่านทุกท่านจากใจจริงว่า ผมนำเสนอข้อมูลคลาดเคลื่อนอยู่สองรายการ จึงขอแก้ไขเพื่อความเข้าใจอันดี


คำคม “ไม่เคยมีเด็กที่น่ารักขนาดนี้มาก่อน แต่แม่ของเขาดีใจที่ได้เขาหลับ” เป็นภูมิปัญญาของ Ralph Waldo Emerson ไม่ใช่ ความคิดเห็นของ หลวงพ่อ Don Wilton


คำคม “ไก่งวงไม่เคยลงคะแนนให้ต้นคริสต์มาส” เป็น ภูมิปัญญาของ Guru นิรนามชาวไอริช ไม่ใช่ ความคิดเห็นของ Ted Robbin


อาศัยผลานิสงส์ในการประกาศความสัตย์ มาเป็นพรอันประเสริฐอวยชัยให้ ฐานเศรษฐกิจ และ ผู้อ่านทุกท่าน ขอให้ได้รับความสวัสดีทุกสิ่งที่พึงประสงค์ สมดังใจปรารถนา ทุกเมื่อ โดยพลัน ต่อเนื่องตลอดกาล


สำหรับผมเองในฐานะที่เกิดมาเป็น “ประชาชนไฮเปอร์” ก็จะลงมือจัดระเบียบที่มาของอาการ ตากุ้งยิง ให้ระงับเข้าที่เข้าทางจะได้เอาเวลามาสรรสร้าง สาระบันเทิง ส่งส่วยความคิดให้แยบยลกว่าเดิมเพื่อเป็นการไถ่โทษ จะได้สอดคล้องกับคติพจน์อันทรงคุณค่าที่ว่า “สงครามวิชาชีพยังไม่จบอย่าเพิ่งส่งผมไปเป็นศพแทนที่ตะหาน” (ฮา!)