ผมขอฟื้นตะเข็บเอามาฝอยอีกสักรอบหนึ่งว่า ในวันที่ได้รับเชิญไปทอล์คโชว์ให้กับบิษัทขายเครื่องดนตรี ในหัวผมมันไม่มีมุกอะไรเกี่ยวกับดนตรีเลย หลบมุมไปตั้งสตินั่งซดกาแฟอยู่สักครู่ ก็นึกขึ้นได้ว่า แม่ผมเป็นครูสอนภาษาไทย นักพากย์หนังบางคนในแดนใต้มักจะพากย์เพี้ยน พระเอกเห็น งู ก็ตะโกนบอก นางเอกว่า ฮู…อยู่ข้างหลัง ระวัง…ฮู คนดูฮาตรืม รอบต่อมาเขาเปลี่ยนคำจาก ระวัง…ฮู กลายเป็น ระวัง…อสรพิษ! (ฮา)
เมื่อนึกขึ้นว่า อักขระภาษาไทยเป็นถ้อยคำไพเราะคล้ายเสียงดนตรี ก็คิดต่อว่า อักขระตัวไหนบ้างที่มีเสียงใกล้เคียงกับทำนองสากล โด่ เร มี่ ฟ้า ซอล ลา ซี่ โด๊ ผมค่อยๆ เบิก ทีมเวิร์คจากหลักศิลาจารึก มาร่วมวงทีละคำตามลำดับ
□ โด่ เสียงใกล้เคียงกับคำว่า เปรต
□ เร เสียงใกล้เคียงกับคำว่า เวร
□ มี่ เสียงใกล้เคียงกับคำว่า แร่ด
□ ฟ้า เสียงใกล้เคียงกับคำว่า ควาย
□ ซอล เสียงใกล้เคียงกับคำว่า เลว
□ ลา เสียงใกล้เคียงกับคำว่า บ้า
□ ซี เสียงใกล้เคียงกับคำว่า เห้
□ โด๊ เสียงใกล้เคียงกับคำว่า งก
คงจะยังจำ เนื้อ กับ ทำนอง หลอมเป็นเนื้อเดียวกันว่า “โด่ เรมี โด่มี โด่มี เร มีฟา ฟามีเรฟา มี ฟาซอล โด่ซอล โด่ซอล โด่ ซอลลา ลามีโด่ลา…” ผมก็เอามาแปลงเป็น “เพลงคายอารมณ์” ร้องมันดื้อๆ บนเวทีว่า “ยามใดที่คนข้างบ้านทะเลาะกัน ผมไม่รำคาญ เพราะเขาบริภาษกันเป็นทำนอง ฟังแล้วเพลินดี”
“เปรต เวรแร่ด เปรตแร่ด เปรดแร่ด เวร แร่ดควาย ควายแร่ดเวรควาย แร่ด ควายเลว แร่ดเลว แร่ดเลว ควาย เลวบ้า บ้าเลวควาบ้า…” (ฮา)
แฟนคลับฮากันตรึม ทอล์คโชว์กันเสร็จเดินลงจากเวที เพื่อนเข้ามาทักว่า “มึงไปกินอะไรผิดสำแดง มารึเปล่า!” (อิๆ)
สมัยเรียน ม.ราม ผมอาศัยบ้านเช่าอยู่ในซอยวัดยี่ส่าย จรัญสนิทวงศ์ ตกเย็น พณฯ ช่างกล ผู้มีความสุนทรีย์ เขาจะมาซดเหล้าตรงเวลานัดเป๊ะ (ฮา) ประมาณสองทุ่มจะเริ่มร้องเพลงปลุกใจ ใครโชคดีได้ฟังก็จะเกิดอารมณ์ไฮบริด ผมฟังจนจำได้แม่น
"เทวดา หน้าอินทร์ หน้าพรหม จะโศก จะตรม ช่างแม่มันปะไร ตัวกูไม่ใช่ตัวใคร ตายแล้ว เกิดใหม่ มันเรื่องของกู" (ฮา)
ผมนึกสนุกก็เลยร้องเสียงดังตามเขามั่ง แค่อึดใจเดียวเขาส่งฑูตมาถามถึงหน้าห้องว่า "พี่ร้องล้อเลียนพวกผมหรือเปล่า" ใจหายแว๊บเลย รีบบอกฉับพลันว่า "ร้องเอามันเพราะเพลงสนุกดีครับน้อง" เขาก็ใช้ได้นะ ถามก่อนจะถอง เขาก็บอกว่า "ถ้างั้นไม่เป็นไร นึกว่าลองของ" วันนั้นจำไม่ได้ว่าแขวนหลวงพ่ออะไรถึงได้รอดมาจนวันนี้ (ฮา)
รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล เคยสอนผม ในขณะรอสั่งก๋วยเตี๋ยวว่า "คุณเป็นคนใจร้อน ผมฝากให้คุณไปคิดนะ อย่าทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เราต้องทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ถึงจะเป็นผู้นำที่ดีได้"
พูดจบท่านก็สั่ง ก๋วยเตี๊ยวหมูต้มย้ำเส้นเล็ก เลี้ยงทั้งโต๊ะ ผมมีอาการท้องเสียง่ายถ้ากินพริกเข้มเกิน จึงบอกกับท่านว่า "ผมไม่ทานเตี๋ยวหมูต้มยำครับ" ท่านก็พูดปิดประเด็นว่า " เขากินได้กันทั้งโต๊ะ คุณทำใจกินซะบ้างสิ" ผมเงียบกริบเพราะมีแววว่า เส้นเล็ก กำลังจะพองเป็น เส้นใหญ่ (ฮา)
ปรากฏการณ์จิ๊บๆ เหล่านี้ คือ ตำรานอกห้องเรียน ใครไหวทันก็รอด และใครคิดแบบอืดอาด ก็อาจจะอืดหรื้ออึ้งได้ อย่าเปิดตาดูแต่ตำราไล่ล่าเกรด ถ้าเราไม่ทำกิจกรรมพิเศษเกรดชีวิตจะไม่งอกเงย