แค่ “วีซ่าฟรี” ยังไม่พอดึง“จีน”

23 ก.ย. 2566 | 02:30 น.

แค่ “วีซ่าฟรี” ยังไม่พอดึง“จีน” บทบรรณาธิการ

มาตรการ “วีซ่าฟรี” ที่รัฐบาลออกมาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน สำหรับนักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และ คาซัคสถาน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 

รัฐบาลตั้งความหวังว่าจะดึง “นักท่องเที่ยวจีน” เข้าไทยได้ราว 1,912,000 - 2,888,500 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ 92,583 - 140,313 ล้านบาท ส่วน “นักท่องเที่ยวคาซัคสถาน” จะเข้าไทย 129,485 คน สร้างรายได้ 7,930 ล้านบาท

แน่นอนว่า “นักท่องเที่ยวจีน” คือ ตลาดหลักที่จะสร้างเม็ดเงินสะพัดให้กับประเทศไทย จากการเข้ามากิน เที่ยว ช้อปปิ้ง แม้จะพบว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา จะมีจำนวนเพียง 2.3 ล้านคน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าไทยจำนวน 19 ล้านคน ขณะที่ “เป้าหมาย” ของรัฐบาลคือ ต้องการให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากถึง 5 ล้านคน นั่นหมายถึงอีก 3 เดือนที่เหลือต้องมีนักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้าไทย 2.7 ล้านคน

 และไม่ใช่แค่นี้ “เป้าหมาย” ของไทย ยังต้องการตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด ซึ่งมีจำนวนมากถึง 10-11 ล้านคนเลยทีเดียว

ไม่ง่าย! หากคิดว่าแค่ “วีซ่าฟรี” แล้วตัวเลขนักท่องเที่ยวจีน จะพุ่งปรี๊ด พาเหรดเข้าไทยได้มากขึ้น เพราะหากย้อนกลับไปถึงปัจจัยที่ทำให้ “นักท่องเที่ยวจีน” เข้าไทย คือ เรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ที่นักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่นิยมสืบค้นข้อมูลจาก Baidu, Weibo ฯลฯ 

ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวไทยไม่สูง และคุ้มค่า อาหารที่มีให้เลือกทั้งร้านอาหาร สตรีทฟู้ด มิชลิน รวมถึงการเดินทางที่สะดวก และความปลอดภัยในการใช้ชีวิต ซึ่งหัวข้อหลัง “ความปลอดภัย” มักจะไม่ถูกพูดถึง ทั้งๆ ที่ในวันนี้มีข่าวสารความเคลื่อนไหวของการใช้ชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวจีน ในประเทศไทย ที่ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ถูกรีวิว และแชร์ต่อในโลกโซเชียลของจีนจำนวนมากมายในทุกๆ วัน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโจรกรรม การถูกโกง ล่อลวง การเอาเปรียบเล็กๆ น้อยๆ การลักพาตัว รวมไปถึงกรณีจีนเทา ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีน ถูกเพ่งเล็ง ถึงการเดินทางเข้าไทยด้วยเป้าประสงค์ใด
 
สิ่งเหล่านี้ล้วนฉุด “ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น” ต่อประเทศไทย คำถามคือแล้วรัฐบาลจะสร้างความมั่นใจได้อย่างไร
  
“วีซ่าฟรี” หากจะหว่านแห เปิดทางให้ใครเข้าก็ได้เหมือนจะง่าย หากต้องการแค่จำนวน แต่หากเจาะกลุ่มมุ่งไปยังนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก หรือกลุ่มที่มีเป้าหมายชัดเจน เช่น ต้องการเดินทางมาไทยเพื่อใช้บริการเกี่ยวกับ Medical & Wellness Tourism ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรม หรือ IVF ภาพเหล่านี้ยังมีความชัดเจน เพราะไทยจะได้เงินจากบริการเหล่านี้ในหลักแสน หลักล้านแน่นอน
 
หรือจะเป็นการมาท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนระยะยาว ตามรอยซีรีส์ไทย อีกหนึ่ง Soft Power ที่คนจีนกำลังคลั่งไคล้ศิลปินไทย ฯลฯ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นโอกาส
 
ชั่วโมงนี้ “วีซ่าฟรี” จึงยังไม่พอ หากขาดการบูรณาการแบบรอบด้านร่วมกัน