สำลักความสุขส่งท้ายปี รับมือชีวิต “มีค่า” หลังปีใหม่ 

28 ธ.ค. 2566 | 22:30 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ธ.ค. 2566 | 23:32 น.

สำลักความสุขส่งท้ายปี รับมือชีวิต “มีค่า” หลังปีใหม่ บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3952

เทศกาลปีใหม่ 2567 ที่กำลังจะมาถึง รัฐบาลจัดเต็มของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้กับประชาชน ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดราคาสินค้า ลดค่าครองชีพ รวมถึงบริการและการอำนวยความสะดวกต่างๆ

ตัวอย่างที่เป็นไฮไลท์ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้ตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยในงวดมกราคม-เมษายน 2567 สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟน้อยกว่า 300 หน่วยต่อเดือน ส่วนในกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือน ปรับลดจากเดิม 4.68 บาทต่อหน่วย เป็นไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้จะตรึงราคานํ้ามันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และตรึงราคาก๊าซแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ไว้ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) โดย ปตท. จะไม่ปรับขึ้นราคาขายปลีกนํ้ามันทุกชนิดตลอด 10 วัน (ตั้งแต่ 24 ธ.ค. 2566 ถึง 3 ม.ค. 2567) หากราคานํ้ามันในตลาดโลกลด จะปรับลดตามลงด้วย

ส่วนกระทรวงการคลัง จะลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาไม่เกิน 50,000 บาท จากมาตรการ Easy E-Receipt หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือบริการ โดยใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ. , กระทรวงคมนาคม ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ถึง วันที่ 3 ม.ค. 2567

กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน New Year Megasale 2024 ทั่วประเทศ นำสินค้ากว่า 40,000 รายการ และบริการกว่า 1,180 ราย ลดราคาสูงสุด 82% เป็นเวลา 1 เดือน เริ่ม 15 ธ.ค.2566 ถึง 15 ม.ค. 2567 พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับ E-commerce และแพลตฟอร์มจัดส่งอาหารชั้นนำ 386 ราย มอบโค้ดส่วนลดสูงสุด 80% สำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ กว่า 13 ล้านรายการ เป็นต้น

ขณะกระทรวงวัฒนธรรม เปิดให้เข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติฟรี 20 ธ.ค. 2566 ถึง 5 ม.ค. 2567 ยังไม่นับรวมบริษัทห้างร้านเอกชนที่เตรียมจัดกิจกรรมเคาน์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอย่างคึกคัก

อย่างไรก็ดีหลังปีใหม่ ความสุขของประชาชนคนไทยอาจจะลดน้อยถอยลง เพราะชีวิตมี “ค่า” ต่างๆ รออยู่ ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้าที่ผู้ใช้ไฟเกิน 300 หน่วยต่อเดือนเตรียมขยับจาก 3.99 บาท เป็น 4.20 บาทต่อหน่วย (ครม.ยังไม่มีมติปรับลดลงอีก), ค่าแรงขั้นตํ่าทั่วประเทศที่จะปรับขึ้นอีก 2-16 บาท ตั้งแต่ 1 ม.ค. ซึ่งจะมีผลต่อราคาสินค้าหลายกลุ่มที่จะปรับเพิ่มขึ้น จากผู้ผลิตมีต้นทุนค่าไฟ และค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีหลายธุรกิจที่เสี่ยงปิดกิจการเพิ่มในปี 2567 เช่น ธุรกิจเหล็ก ธุรกิจรถมือสอง ธุรกิจค้าปลีกห้องแถว ธุรกิจสิ่งทอ และอีกหลายธุรกิจที่ถูกสินค้าราคาตํ่าจากต่างประเทศเข้ามาดัมพ์ตลาด คนเสี่ยงตกงานอีกจำนวนมาก

ส่วนราคานํ้ามันดีเซล และก๊าซหุงต้มที่รัฐบาลจะตรึงไว้เป็นเวลา 3 เดือน หากครบกำหนดแล้วยังมีความเสี่ยงอาจปรับเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ราคาพลังงานโลกที่ถูกกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังไม่นับรวมหนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ หนี้ค่าบัตรเครดิต หนี้ค่าโทรศัพท์ หนี้ค่างานเลี้ยง ฯลฯ ที่ประชาชนคนเดินดินต้องแบกรับและต้องหาเงินมาจ่าย

ความสุขช่วงปีใหม่ต้องตักตวงกันไว้ให้เต็มที่ แต่ขอให้เผื่อใจและตั้งรับกับชีวิต “มีค่า” หลังปีใหม่กันให้ดี