เปิดไฮไลท์ชวนเที่ยวงาน “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์" 27 ธ.ค. 67 - 2 ม.ค.68

22 ธ.ค. 2567 | 19:42 น.

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์และททท. ชวนเที่ยวงาน “มหาธาตุ มหาธรรม นำสุข” ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วันที่ 27 ธ.ค. 67 - 2 ม.ค.68 ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พร้อมเชิญชวนร่วมสวดมนต์ข้ามปีในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์และททท. เชิญชวนเที่ยวงานมหาธาตุ มหาธรรม นำสุขส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน 7 คืน พร้อมเปิดให้ชม “พระแสงดาบราวเทียน” สุดยิ่งใหญ่ในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อีกครั้ง ชวนชิมอาหารอร่อย ตลาดนัดชุมชน ดูหนังกลางแปลง ชมไฟสวยงาม หนึ่งในงานอารามอร่าม 11 วัด

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนเที่ยวงาน “มหาธาตุ มหาธรรม นำสุข” ในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน 7 คืน ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พระอารามหลวงแห่งแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 

ภายในงานมี ไฮไลท์ คือการเปิดให้ชม “พระแสงดาบราวเทียน” ที่สุดยิ่งใหญ่ในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อีกครั้ง หลังจากได้เปิดให้เข้าชมในงานเฉลิมฉลองสมโภชพระอาราม 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ หลังจากพระแสงดาบราวเทียนได้หายจากวัดไปยาวนานเกือบ 70 ปี และได้กลับคืนมาอีกครั้ง 

พระแสงดาบราวเทียนนับเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ โดยในวันที่ 28-29 ธันวาคม เวลา 10.00-12.00 น. และ 14.00-16.00 น. จะมีการนำชมและบรรยายโดยวิทยากรพิเศษ อจ.ปริญญา สัญญะเดช นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญศาสตราวุธ ผู้ทราบเบาะแสและตามหาพระแสงดาบราวเทียนจนพบ 

“บัดนี้การจัดทำตู้นิรภัยสำหรับพระแสงดาบราวเทียน ได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงพร้อมที่จะนำมาให้สาธุชนได้ชมอีกครั้ง หลังจากการเปิดให้เข้าชมในปี 2566 มีผู้เข้าชมจำนวนมาก”

พระแสงดาบราวเทียนนี้ เดิมเป็นพระแสงดาบประจำพระองค์ ของสมเด็จพระบวรราช เจ้ามหาสุรสิงหนาท พระแสงดาบเล่มนี้ได้ผ่านศึกสงครามในการกอบกู้ชาติบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน ต่อมาเมื่อคราวที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงพระประชวร ได้ตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระแสงดาบเป็นราวเทียน อันเป็นการยุติการทำศึกสงครามสังหารศัตรูทั้งปวง ถวายเป็นพุทธบูชาหน้าพระประธานในพระอุโบสถสืบไป

ภายในงานมหาธาตุ มหาธรรม นำสุข ยังมีการจำหน่ายอาหารอร่อย ตลาดนัดชุมชน การฉายหนังกลางแปลง ชมไฟประดับสวยงาม ซึ่งวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์เป็นหนึ่งในงานอารามอร่าม ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญชวน เยี่ยมชมความงดงามของวัดยามค่ำคืนที่ประดับประดาด้วยแสงไฟสุดอลังการ 11 วัด 1 โบสถ์พราหมณ์ และ 1 พิพิธภัณฑ์ ที่เต็มไปด้วยแสงไฟสุดวิจิตรตระการตา รับพรและไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต

นอกจากนี้ยังมีการสาธยายพระไตรปิฎกถวายเป็นพุทธบูชา ตั้งแต่เวลา 08.00-19.30 น. ภายในพระอุโบสถตลอด 7 วัน   

พร้อมกันนี้ขอเชิญทุกท่านชม 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด ได้แก่ 

1 หลวงพ่อหิน พระประธานในอุโบสถวัดสลัก (ชื่อเดิมของวัดมหาธาตุ) ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา

 2 พระศรีรัตนมหาธาตุเจดีย์ (พระเจดีย์ทอง) ในพระมณฑป ซึ่งสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เมื่อสถาปนาพระอาราม ปี พ.ศ. 2326 ทรงสร้างพระมณฑปปิดทองร่องกระจก สูง 10 วา บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 

3 พระศรีสรรเพชญ์ พระประธานในพระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นพระพุทธรูปที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง 

4 พระบวรราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท มีขนาดเท่าครึ่ง อยู่ในลักษณะประทับยืนบนเกย หันพระพักตร์ออกสู่สนามหลวง พระหัตถ์ทั้งสองยกพระแสงดาบเหนือพระอุระเพื่อจบถวายเป็นพุทธบูชา ภายในฐานบรรจุเนื้อดินซึ่งเก็บจากแผ่นดินที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เสด็จกรีธาทัพเข้ามาทั้งสิ้น 28 แห่ง 

5 ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นโพธิ์ที่พระโคตมพุทธเจ้าเคยประทับและตรัสรู้ โดยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้นำหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมืองอนุราธปุระ มาปลูกไว้ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เมื่อปี พ.ศ. 2361 ปัจจุบัน ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ มีอายุ 206 ปี

ภายในวัดยังมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆเช่น วิหารโพธิ์ลังกา เป็นพระวิหารน้อย สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 และเคยเป็นตำหนักที่ประทับเมื่อครั้งทรงพระผนวช , ตึกแดงหรือตึกถาวรวัตถุ หอสมุดวชิราวุธ สถาปัตยกรรมสำคัญของอาคารก่ออิฐถือปูนสมัยรัชกาลที่ 5 , พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ มกุฎราชกุมารพระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ , อาคารเบญจมราชวรานุสรณ์ (สถานปฏิบัติธรรม ศูนย์วิปัสสนานานาชาติ) 

แผ่นศิลาจารึกดวงชะตา (พิชัยสงคราม) ซึ่งจารึกเป็นอักษรสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นหลักฐานสำคัญเก่าแก่ที่สุด เป็นเครื่องแสดงว่า วัดมหาธาตุฯ มีอายุ 339 ปี , พระแท่นบรรทมสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท , พิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุ คัมภีร์พระไตรปิฎกที่ได้ทำการสังคายนาในสมัยรัชกาลที่ 1 (ปี พ.ศ.2331) และผ้าห่อคัมภีร์ใบลานเก่าแก่ เป็นต้น

พร้อมเชิญชวนร่วมสวดมนต์ข้ามปี ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เริ่มเวลา 22.00น. ภายในพระอุโบสถ และวันที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 07.00 น. ตักบาตรพระสงฆ์ 68 รูป ต้อนรับปีใหม่ บริเวณด้านหน้าพระมณฑป รับบุญหนุนดวงในช่วงปีใหม่