เหงือกจ๋า ฟันลาก่อน

05 เม.ย. 2567 | 21:35 น.

เหงือกจ๋า ฟันลาก่อน คอลัมน์ชีวิตบั้นปลายของชายชรา โดยกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

วันก่อนผมได้เข้าไปเยี่ยมเพื่อนรักท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เจอกันมานานร่วมสี่สิบกว่าปีแล้ว เราต่างดีใจมากที่ได้เจอกัน เพื่อนคนนี้เคยเรียนหนังสือด้วยกัน ตั้งแต่สมัยผมยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่ไต้หวันด้วยกันกับผม เราต่างก็มาจากโรงเรียนมัธยมต้นที่บนดอยแม่สะลองด้วยกัน 

ซึ่งในยุคนั้นเขาเป็นคนที่มีรูปร่างผอมสูง หน้าตาหล่อเหลาเอาการที่เดียว เรียกว่าสาวๆไต้หวันติดกันเกลียวเชียวครับ แต่มาวันนี้แม้ว่าเขาจะยังคงรักษาหุ่น ที่ผอมเรียวเหมือนเช่นเมื่อก่อน แต่สิ่งที่ผมสังเกตเห็น คือหน้าตาเขาตอบลงมาก อีกทั้งมีริ้วรอยเหี่ยวย่นเต็มใบหน้า แก้มเขาดูเหมือนว่าจะบุ๋มลงไป ความหล่อในอดีตหายไปโดยสิ้นเชิง 
 

ผมจึงทักทายเขาไปว่า นายมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า? เขาก็ตอบว่า ก็ปกติดี เพียงแต่สายตาก็ไม่เหมือนเดิม มีสายตายาวเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งฟันฟางก็ไม่ค่อยดี สุดท้ายผมชวนเขาไปทานข้าวด้วยกัน ในช่วงหนึ่งที่เราทานข้าวกันอยู่นั้น ผมสังเกตเห็นว่า การขบเขี้ยวอาหารของเขา มีเสียงดังออกมาเบาๆ 

ที่มาของเสียง คือมาจากฟันปลอมของเขากระทบกันนั่นเอง ผมจึงได้เข้าใจทันทีว่า ที่หน้าตาเหี่ยวย่นและแก้มที่ตอบลงนั้น มาจากการที่ฟันกรามของเขาหลุดหมดปากแล้วนี่เองครับ
 

หากเราสังเกตผู้สูงวัยส่วนใหญ่ จะเห็นว่าปัญหาโรคฟันจะเป็นปัญหาสำหรับทุกๆ คนจริงๆ เพราะฉะนั้นคนส่วนใหญ่ที่มีอายุสูงขึ้น จะต้องพบกับปัญหาเรื่องฟันจึงเป็นเรื่องปกติเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจที่ร้านทำฟันของทันตแพทย์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะทันตแพทย์ที่ฝีมือดีทั้งหลาย จึงมีผู้สูงวัยที่เป็นลูกค้า ต้องไปต่อคิวกันยาวเหยียดเลยครับ ใครที่หวังว่าเดิน Walk-Inโดยไม่ได้จองล่วงหน้า อย่าหวังว่าจะมีคิวว่างให้ทำฟันเลยครับ
         
มีบทวิจัยบางเรื่อง ที่ทำการวิจัยเรื่องของโรคต่างๆ ที่เกิดจากผลต่อเนื่องจาก “ฟัน” ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกันครับ ที่ผมอ่านเจอจากผลของการรายงานการสํารวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศของประเทศไทย ครั้งที่ 7 พบว่าผู้สูงวัยที่มีอายุ 60-74 ปี ร้อยละ 88.3 มีการสูญเสียฟันบางส่วน และร้อยละ 7.2 สูญเสียฟันทั้งปาก 

และการสูญเสียฟันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามอายุ เมื่อมีอายุ 80-89 ปีพบสูญเสียฟันทั้งปากสูงถึงร้อยละ 32.2 ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรตระหนักเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสัดส่วนผู้สูงอายุวัยปลาย คือตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นมากกว่าผู้สูงอายุวัยต้นและวัยกลางอย่างชัดเจน จะเห็นว่ายิ่งแก่ยิ่งฟันน้อยลงจากปากเรื่อยๆ เลยครับ
           
เรามาดูกันต่อว่าทำไมคนรุ่นใหม่ๆ จึงมีปัญหาเรื่องฟันมากกว่าคนรุ่นเก่ามาก ต้องยอมรับว่าเหตุผลหลักนั้น มาจากเรื่องของพฤติกรรมการบริโภคอาหารเป็นส่วนใหญ่ คนรุ่นใหม่มักจะนิยมทานอาหารที่มีรสหวานมากกว่าคนรุ่นเก่า อีกทั้งในช่วงวัยเด็กของคนรุ่นใหม่ ขนมหวานจะมีความหลากหลายมากกว่ารุ่นก่อนๆ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกกวาดหรือลูกอม จะมีให้เลือกสรรมากกว่าในอดีตมาก เด็กรุ่นใหม่จึงมีความนิยมทานขนมหวานมากกว่าอดีตมาก อีกประการหนึ่ง พฤติกรรมการทานขนมหวานแล้วไม่ชอบการบ้วนปาก หรือดื่มน้ำล้างปาก จึงทำให้เชื้อโรคที่มากับขนมหรือลูกกวาดลูกอมที่มีความหวาน หมักหมมอยู่ในช่องปาก 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลากลางคืน ก่อนนอนก็ไม่นิยมแปรงฟันก่อนนอน จึงทำให้เกิดโรคฟันผุตามมา เราจึงพบเห็นเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่มีอาการฟันผุหรือปวดฟันมากกว่าคนรุ่นเก่าๆ ครับ ยิ่งพอย่างเข้าสู่วัยชรา แน่นอนว่าฟันที่เคยฝังแน่นอยู่กับเหงือก จึงค่อยๆ โบกมือลาไปจากปากนั่นเองครับ
         
หลากหลายข้อมูลการศึกษาพบว่า ปัญหาการสูญเสียฟันนั้น มีความสัมพนธ์กับการขาดสารอาหารและน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว สภาวะโภชนาการต่ำหรือขาดสารอาหาร มักจะพบได้กับผู้สูงวัยมากกว่าคนวัยอื่นๆ อีกทั้งกลุ่มคนที่มีสภาวะผอม ที่วัดจากดัชนี BMI <18.5Kg/m2(8)  มักจะมีการสูญเสียฟันมากกว่าคนที่ร่างกายปกติ 

อีกทั้งการที่มีสภาวะขาดโภชนาการ นอกจากจะทำให้เกิดการฟันร่วงหรือสูญเสียฟันแล้ว ยังส่งผลทางอ้อมหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ ระบบทางเดินหายใจบกพร่อง กล้ามเนื้ออ่อนแรง และทำให้เพิ่มอาการหดหู่ง่าย นี่คือผลที่จะตามมานั่นเองครับ
      
เราจึงมักจะเห็นผู้สูงวัยส่วนใหญ่ มักจะนิยมใช้ฟันปลอมมาช่วยในการแก้ปัญหา นั่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้ผล แต่ต้องมีความระมัดระวังในการใช้ฟันปลอม ให้เหมาะสมกับขนาดของปากตนเองเสมอ ผู้สูงวัยบางท่านที่ผมเคยเจอ ส่วนใหญ่มักจะทำแล้วทำเลย คือไม่ได้มีการเปลี่ยนขนาดของฟันปลอมที่ใส่อยู่เป็นประจำ 

อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่าสรีระของผู้สูงวัย ไม่ได้มีขนาดเท่าเดิมตลอดไป บางท่านอาจจะผอมลงหรืออ้วนขึ้น ควรจะต้องปรึกษาทันตแพทย์ในการตรวจตราขนาดของฟันปลอมที่ใช้อยู่เป็นประจำด้วยว่า ยังคงใช้ได้กับขนาดของตนเองอยู่หรือเปล่า เพราะอย่าลืมว่า เสื้อผ้าอาภรณ์ของตัวเรา ยังต้องมีการขยับขนาดอยู่ทุกๆปี ฉันใดก็ฉันนั้น ฟันปลอมที่เคยใช้อยู่เป็นประจำ ก็ควรจะต้องดูแลให้เหมาะสมกับตัวเราด้วยเช่นกันครับ