สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดได้ตัดสิน ซึ่งทางที่ตลาดเลือก คือการลงมาปรับฐานและหากวัดจากจุดสูงสุดต้องยอมรับว่า จากที่เปิดปีมาเป็นตลาดที่แข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับเมืองนอกกลายเป็นตลาดที่อ่อนแอในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา การที่ตลาดลงจาก 1438.10 มาปิด 1382.51 หรือเกือบ 60 จุดโดยประมาณ ต้องยอมรับว่าหุ้นที่เป็นตัวขนาดกลาง-ใหญ่ มักจะโดนเเรงเทขายลงมาเยอะ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงค์ที่ไม่ใช่แค่โดน downgrade จากสำนักต่างประเทศก่อนหน้านี้ แต่ผลประกอบการที่ออกมาก็ไม่ได้ดีมากพอที่จะทำให้นักลงทุนนำแรงซื้อกลับเข้าไปในตัวหุ้น อีกทั้งฝรั่งก็ยังไม่กลับมาซื้อและยังขายต่ออีกนิดหน่อย
เราต้องยอมรับว่าช่วงนี้ประเทศไทย ปัจจัยในประเทศดูจะไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่นัก เช่น นโยบาย 1 หมื่นบาทดิจิทัล ยังไม่รู้จะเกิดไหม ดอกเบี้ยแบงค์ชาติจะมีการปรับหรือไม่อย่างไร หรือแม้กระทั่งค่าไฟหรือน้ำมันจะโดนแทรกแซงด้านราคาอีกหรือไม่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ผมเชื่อว่าอาจจะทำให้ฝรั่งยังไม่กล้าเข้ามาซื้อในระยะสั้น อย่างไรก็ตามถ้าจะให้บอกว่าฝรั่งจะขายอีกเยอะๆ ผมก็คิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ถ้าเปรียบเทียบตอนนี้เหมือนเป็นช่วงท้ายที่ฝรั่งมีของให้ขาย คำถามเดียวที่ต้องตอบก็แค่เมื่อไหร่จะกลับมาซื้อ
เพราะฉะนั้นแปลว่าดัชนีแถวนี้ หลังปรับลดลงมาก็เป็นจุดที่ยังฟันธงไม่ได้ว่าจะเป็นจุดต่ำสุดรึยัง แต่รู้แน่ๆ ว่าต่ำกว่านี้ได้อีกไม่เยอะ (ซึ่งในมุมผมคือไม่น่าต่ำกว่า 1300) แต่อาจจะไม่ถึงก็ได้และหากดูทางเทคนิคจะพบว่าดัชนีมีโอกาสเด้งได้ทุกเมื่อ อาจจะตรงนี้เลยก็ได้ หรือต่ำกว่านี้ไปจนถึง 1300 ก็ได้
สิ่งที่ควรทำในการปรับพอร์ตจึงเป็นการที่ถ้าพอร์ตว่างก็ให้หาตัวติดพอร์ตไว้นิดหน่อย แต่ถ้าพอร์ตเต็ม ต้องรอดูตอนเด้งและดูตลาดว่าจุดต่ำสุดผ่านไปรึยัง (รออัปเดต) แต่ถ้ามีอยู่30-50% ของพอร์ตให้อยู่เฉยๆ รอดูตลาดและรอซื้อเพิ่ม
หุ้นแนะนำเล่นสั้นเก็งกำไรในกรณีตลาดเด้ง
- epg โดยซื้อ 7.3-7.5 การต่ำกว่า 7.1 ต้อง cut loss กรณีขึ้นราคาเป้าหมายแรก 9.05