สัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากซื้อขายแค่ 4 วันทำการจึงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักในภาพใหญ่หรือแม้กระทั่งภาพย่อยก็ตาม จุดต่ำสุดของภาพใหญ่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะลงไปเป็นบริเวณ 1270-1320 หรือ จุดต่ำสุดผ่านไปแล้ว ถ้าเป็นกรณีที่ 2 หมายความว่าที่หลุด low เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วเป็น error
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำยังย้ำว่าต่อให้ยืนยันจุดต่ำสุดไม่ได้ แต่ก็ยังควรจะมีหุ้นในพอร์ต 50% สาเหตุก็เพราะว่าถ้าจุดต่ำสุดผ่านไปแล้ว SET จะมีวันที่พุ่งแรงๆ ขึ้นไปเลย เราจึงต้องมีไว้เผื่อตกรถ แต่หุ้นเหล่านั้นต้องเป็นหุ้นที่ต่อให้ถ้า SET ลงไป 1300 ก็ยังต้องไม่เสียทรงมาก
หากดูเชิงปัจจัย สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินเฟ้อของประเทศไทยกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรายเดือน ในมุมผม ผมไม่ได้กลัวว่าจะส่งผลกระทบมากเท่าไหร่ สาเหตุก็เพราะว่าหลักๆ แล้วมีผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวมากขึ้นจากอิหร่าน-อิสราเอล และจริงๆ แล้วการที่เงินเฟ้อขึ้นมานิดหน่อยก็ไม่ได้เป็นผลแย่ต่อเศรษฐกิจเสมอไป ในทางกลับกันการที่เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นได้เรามักเห็นเงินเฟ้อนิดหน่อยอยู่แล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าเป็นเรื่องดี คือการที่เราเห็นการ action จากตลท. ในเรื่องของการเพิ่มเสถียรภาพให้ตลาดและเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุกกลับมา เช่น การเอา uptick rule มาใช้ หรือเปลี่ยนกฏอื่นๆ ของการ short sale
ระยะสั้นหากการขยับขึ้นเป็นเหมือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กล่าวคือ sideway up แบบไม่มี volume ยังไม่ต้องคิดว่า SETจะมีอะไรเปลี่ยนหรือควรซื้อเพิ่ม เพราะไม่ถือว่ามีนัยสำคัญ