มหากาพย์ วินด์ เอ็นเนอร์จี้ กับสงครามที่ยังไม่จบ

04 ส.ค. 2566 | 01:15 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2566 | 05:31 น.

มหากาพย์ วินด์ เอ็นเนอร์จี้ กับสงครามที่ยังไม่จบ คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์

*** มหากาพย์หุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) มาถึงจุดที่ศาลแพ่งประเทศอังกฤษ ตัดสินให้ ณพ ณรงค์เดช และพวกรวม 14 คน ร่วมกันจ่ายค่าเสียหายราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ กว่า 30,000 ล้านบาท ให้กับ นพพร ศุภพิพัฒน์ เจ้าของผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ WEH จากมูลค่าความเสียหายที่ นพพร ฟ้องเรียกไป 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ประเด็นของการฟ้องร้องที่ นพพร ศุภพิพัฒน์ ฟ้องบุคคลกลุ่มนี้คือ “ข้อหาสมคบกันชักจูงใจด้วยข้อมูลลวงให้ขายหุ้น WEH เพราะเห็นว่าน่าจะไม่ได้รับการชำระเงินส่วนที่เหลือจาก นายณพ เนื่องจากหุ้นที่ได้ขายไปนั้นได้ถูกโอนยักย้ายถ่ายเทไปให้ผู้อื่นอีกหลายทอด จึงมีความจำเป็นต้องยื่นคดี

โดยผู้ที่ศาลพิพากษาว่าผิดรวม 14 ราย นั่นคือ..
1. นายณพ ณรงค์เดช
2. นางเอมม่า ลูอิส คอลลินส์ อดีต CEO ของ WEH
3. นายธันว์ เหรียญสุวรรณ อดีตผู้บริหาร WEH และ REC
4. นายอามาน ลาคานี อดีตผู้บริหาร WEH
5. บริษัท คอลัมม์ อินเวสต์เมนท์ส จำกัด บริษัทที่จดทะเบียนที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก
6. บริษัทเคเลสตัน โฮลดิงส์ จำกัด บริษัทที่จดทะเบียนที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน มีจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก
7. บริษัท เอแอลเคบีเอส จำกัด บริษัทที่จดทะเบียนที่สหรัฐอเมริกา มีจำเลยที่ 4 เป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก
8. บริษัท โกลเด้น มิวสิค จำกัด บริษัทที่จดทะเบียนในฮ๋องกง
9. บริษัท คอร์นวอลลิส จำกัด
10. นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ
11. ดร.เกษม ณรงค์เดช
12. คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา
13. นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้ง WEH
14. นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ อดีต CFO ของ KPN Group ของตระกูลณรงค์เดช

มูลเหตุของการฟ้อง เริ่มจากในปี 2558 นายณพ ได้ขอซื้อหุ้นจากนายนพพร ซึ่งนายนพพร ถือหุ้น WEH เป็นจำนวน 59.46% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ผ่านบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี คอร์เปอร์เรชั่น จํากัด (REC) โดยบริษัท REC มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บริษัท ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส จํากัด, บริษัท เน็กซ์โกลบอล อินเวสต์เมนท์ส จำกัด และบริษัท ไดนามิค ลิ้งค์ เวนเจอร์ส จํากัด ซึ่งทั้ง 3 บริษัท ก็เป็นบริษัทของ นายนพพร เอง ถือหุ้น REC รวม 97.94% ของทั้งหมด 

โดย นายณพ ได้จัดตั้ง 2 บริษัทขึ้นมาทำสัญญาซื้อหุ้นจากกลุ่มบริษัทของ นายนพพร คือ บริษัท ฟูลเลอร์ตัน เบย์ อิน เวสต์เมนต์ ลิมิเต็ด ซึ่งนายณพ มีชื่อเป็นผู้รับผลประโยชน์เพียงผู้เดียว การทำสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัท REC ของ นายนพพร ซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่ใน WEH ให้คุณณพ แบ่งเป็นสัญญา 2 ฉบับ ได้แก่ สัญญาซื้อขายหุ้น REC ที่บริษัท ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส จํากัด ขายหุ้น 49% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ให้กับบริษัท ฟูลเลอร์ตัน ของคุณณพนั่นเอง 

กลุ่มของผู้ที่ได้รับความสนใจและเป็นที่พูดถึงกันมากที่สุด ก็เห็นจะหนีไม่พ้นไปจาก คุณณพ ณรงค์เดช ดร.เกษม ณรงค์เดช และ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ซึ่งมีความเกี่ยวของทางเครือญาติกับ คุณณพ โดยที่ ดร.เกษม ณรงค์เดช มีศักดิ์เป็นบิดาแท้ๆ ของ คุณณพ ในขณะที่ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา มีศักดิ์เป็นแม่ยายของ นายณพ  

เมื่อคำตัดสินออกมาแบบนี้ แล้ว “ณพ ณรงค์เดช” และพวก คงต้องสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อไป นับเป็นการแพ้ศึกแต่อาจไม่ได้แปลว่าแพ้สงคราม ต้องเอาใจช่วย คุณณพ ให้ฝ่าฟันอุปสรรคต่อไป 

อย่างไรก็ดี มหากาพย์แห่งเรื่องนี้ แน่นอน ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้รับความเสียหายหมดกับสมบัติมูลค่านับหมื่นล้านชิ้นนี้ ที่ไม่ต่างจากมรดกเลือด ที่พลิกชีวิตคนมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ “หมอความ 9 ชีวิต” เช่น วีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ ที่ต้องสังเวยเกียรติภูมิการเป็นกรรมการบริษัทชั้นนำหลายแห่ง เช่น SCB และ บริษัทในเครือไทยเบฟของเสี่ยเจริญ เช่น AWC และ BJC 

แต่ว่าก็ว่า… หลายคนในวงการธุรกิจก็ตั้งคำถามว่า สมควรโดนด้วยไหม?? เพราะเป็นผู้แนะนำ คุณณพ ให้ทำนั่นทำโน้น จนเป็นจุดเริ่มต้นแห่งมหากาพย์คดีที่อังกฤษ 

ดิฉันไม่ได้กล่าวร้าย หรือ ด้อยค่าใคร… แต่แค่อยากเตือนทุกท่านว่าเวลาใช้นักกฎหมาย หรือ ไปหาหมอ ก็ควรพิจารณาดีๆ เลือกดีๆ เพราะหมอรักษาโรค วินิจฉัยผิด เราก็แค่ตาย แต่หมอความ แนะนำผิดเราอาจตายทั้งเป็นนะเจ้าคะ 

ขณะเดียวกัน ก็ยังมีผู้เล่นสำคัญที่อยู่ในกลุ่มของผู้ถูกฟ้องอีกราย นั้นก็คือ ประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้ง WEH และปัจจุบันยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ใน บริษัท ณุศาศิริ (NUSA) ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ บอร์ดบริหารพึ่งจะไฟเขียวซื้อหุ้น WEH ในสัดส่วน 26.65% จากที่มีอยู่แล้ว 7.12% ซึ่งประเด็นนี้ก็ได้ทำให้ทาง ตลท. มองว่าเข้าข่าย Backdoor Listing โดยให้ทาง NUSA อยู่ระหว่างชี้แจงข้อมูลตามคำสั่ง สำนักงาน ก.ล.ต. นั่นเอง 

ความพยายามที่จะให้ WEH เข้าตลาดหุ้น ทางตรง ก็ไม่ง่าย ปัญหาจากคดีความที่ยืดเยื้อ เป็นความเสี่ยงที่ตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้ง ก.ล.ต. มองเห็นจุดนี้ ส่วนจะเข้าตลาดหุ้นทางอ้อม ผ่านทาง NUSA ก็ถูกขวาง จนล่าสุดทาง NUSA ได้มีมติเลิกใส่เกียร์ R ยกเลิกสวอปหุ้น "WEH" ปรับเป็นตามเกณฑ์ Backdoor ตามคำสั่ง ก.ล.ต.

ส่วนเรื่องคดี ได้ยินแว่วๆ มาว่า ผบห. และ ผถห. NUSA รายใหญ่ พูดว่า ศาลอังกฤษไม่มีอำนาจบังคับที่ไทย แปลคือ ตัดสินอย่างไรเราก็ไม่สน ไม่คืน ไม่หนี และจะ Backdoor ต่อไป

จบข่าว