โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เกิดจากการที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลัน ทำให้เซลล์สมองตายและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ก่อให้เกิดผลกระทบต่างๆ ต่อร่างกาย หนึ่งในนั้นคือก่อให้เกิดปัญหาด้านความจำ
ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองปัญหาด้านความจำหลังเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้ด้วยแบบทดสอบ ได้แก่ TMSE และ MoCA เพื่อวางแผนการรักษาและป้องกันความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมองตั้งแต่เบื้องต้น
โดยพบว่า 50% ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจะมีปัญหาด้านความจำตามมาภายในระยะเวลา 1 ปี นอกจากนี้ยังพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง จะมีความจำแย่ลงถึงขั้นถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมได้
อาการเริ่มต้นของปัญหาด้านความจำ ได้แก่ อาการหลงลืมง่าย, คิดออกยาก, ใช้เวลานานในการนึกถึงสิ่งที่ต้องการ, มีปัญหาในการวางแผน, ความเร็วในการคิดตัดสินใจช้าลง, มีสมาธิในการจดจ่องานลดลง, ผู้ป่วยบางรายอาจประสบปัญหาด้านการใช้ภาษาร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่ยังอยู่ในวัยทำงาน
ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองปัญหาด้านความจำเบื้องต้นด้วยการทำแบบทดสอบ Thai-Mental State Examination(TMSE) และ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) ใช้ระยะเวลาในการตรวจประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ การตรวจคัดกรองในช่วงแรกของการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ยังไม่สามารถนำมาสรุปได้ว่าเกิดจากความผิดปกติของโรคหลอดเลือดสมอง
เพราะอาจมีสาเหตุแฝงอื่นร่วม เช่น ความผิดปกติของเกลือแร่ การใช้ยาหลายชนิด ความกระวนกระวายจากการรับมือกับโรคร้ายแรงที่กำลังประสบ หรือ ภาวะด้านจิตใจอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อความจำ ดังนั้น จึงแนะนำให้ตรวจคัดกรองในระยะยาว หลังพ้นความเจ็บป่วย ช่วงแรกไปแล้ว หากพบความผิดปกติที่บ่งชี้ถึงการทำงานผิดปกติของสมอง แพทย์จะพิจารณาตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียด
ปัญหาด้านความจำหลังเกิดโรคหลอดเลือดสมอง สามารถบรรเทาได้ด้วยยา เป้าหมายของการรักษาคือช่วยเพิ่มความจำในกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง แต่ผู้ป่วยอาจได้รับผลข้างเคียงจากยา เช่น อาการวิงเวียนเละท้องเสีย นอกจากนี้ยังสามารถรักษาด้วยวิธีการฝึกสมองกระตุ้นความจำโดยใช้เทคโนโลยี Virtual Reality หรือภาพจำลองเสมือนจริง ซึ่งพบว่าสามารถช่วยฟื้นฟูความจำได้ดีกว่าการฝึกสมองแบบดั้งเดิม และช่วยลดอาการหลงลืม คิดออกยาก รวมถึงเพิ่มสมาธิในการจดจ่องาน
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัญหาด้านความจำแล้ว โรคหลอดเลือดสมองยังก่อให้เกิดปัญหาในด้านอื่น ๆ เช่นกัน ได้แก่ อัมพาตครึ่งซีก, พูดไม่ชัด, ปัญหาในการมองเห็น, มีปัญหาในการกลืน, และปัญหาด้านอารมณ์ ดังนั้น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองควรมาตรวจติดตามอาการกับแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินความเสียของสมองและอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น หากพบได้เร็วก็จะสามารถรักษาให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ขอบคุณ : โรงพยาบาลเวชธานี
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,967 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567