การเล่นมือถือหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หนึ่งในผลลัพธ์ที่ตามมาคือ การปวดข้อมือ ซึ่งอาจเป็นจุดกำเนิดของ “โรคพังผืดข้อมือกดทับเส้นประสาท” (Carpal Tunnel Syndrome) ได้ อาการเหล่านี้มักพบในกลุ่มคนวัยทำงาน หรือคนที่ชอบเล่นมือถือ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาการอาจรุนแรงขึ้นและอาจนำไปสู่การสูญเสียความสามารถในการใช้มือได้อย่างถาวร
โรคพังผืดข้อมือกดทับเส้นประสาท เกิดจากการที่เส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งอยู่ในอุโมงค์ข้อมือถูกกดทับจนทำให้เกิดอาการปวดและชาที่มือ โดยอาการนี้พบได้บ่อยในคนที่ใช้มือทำงานหนักๆ หรือการทำงานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวข้อมือซ้ำๆ เช่น การพิมพ์งาน การใช้เครื่องมือหนัก การทำงานบ้าน หรือการทำงานที่ต้องยกของ รวมถึงการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นเวลานาน
อาการที่พบ ได้แก่
อาการชา : รู้สึกชาที่บริเวณนิ้วมือ โดยเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และครึ่งนิ้วนางอาการปวด จะปวดบริเวณข้อมือและนิ้วมือ ซึ่งอาจร้าวไปถึงแขนได้
อาการอ่อนแรง : หากมีการกดทับเส้นประสาทมีเดียนเป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อนิ้วหัวแม่มืออ่อนแรง หยิบจับสิ่งของหลุดมือง่าย หรือไม่สามารถหยิบจับสิ่งของได้ดี
อาการในช่วงกลางคืน อาการชาและปวดมักเป็นมากขึ้นในช่วงกลางคืน หรือเมื่ออยู่ในท่าที่งอข้อมือ
การรักษาโรคพังผืดกดทับเส้นประสาท มีการรักษาหลายแบบขึ้นอยู่กับความรุนแรง อาทิ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ข้อมือ โดยลดการใช้ข้อมือลงเท่าที่จะทำได้หรือทำการเปลี่ยนอุปกรณ์การทำงานให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น, การใช้อุปกรณ์พยุงข้อมือ (wrist support), การใช้ยาต้านการอักเสบกลุ่ม NSAIDs
การทำกายภาพบำบัด ซึ่งหากหากรักษาวิธีดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นแพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งปัจจุบันมีทั้งวิธีการผ่าตัดแบบแผลเปิดขนาดเล็ก (Mini Open Carpal Tunnel Release) และวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องเอนโดสโคป (Endoscopic Carpal Tunnel Release: ECTR)
โรคพังผืดข้อมือกดทับเส้นประสาทสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็วและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
ขอบคุณ : โรงพยาบาลเวชธานี
คอลัมน์ Tricks for Life หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,035 วันที่ 13 - 16 ตุลาคม พ.ศ. 2567