เด็กเหนื่อยง่าย - โตช้า เสี่ยง “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด”

23 ก.ย. 2567 | 22:36 น.

เด็กเหนื่อยง่าย - โตช้า เสี่ยง “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” : Tricks for Life

แม้ลูกน้อยจะคลอดออกมามีร่างกายครบสมบูรณ์เหมือนคนทั่วไป แต่ในเด็กบางคน มองภายนอกก็ดูปกติดี แต่กลับมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการเหนื่อยหอบ หรือมีน้ำหนักตัวผิดปกติไม่สมกับวัย ซึ่งสร้างความกังวลให้ผู้ปกครองอย่างมาก ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวน้อย มีความเสี่ยงที่จะเป็น "โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด"

"โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด" (Congenital Heart Disease) เป็นภาวะผิดปกติของโครงสร้างหัวใจที่พบได้ในเด็กแรกเกิด 8 ใน 1,000 คน ที่หากไม่รักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจทำให้เด็กโตมาไม่แข็งแรงและกระทบการใช้ชีวิตในระยะยาว

เด็กเหนื่อยง่าย - โตช้า เสี่ยง “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด”

"โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด" อันตรายของเจ้าตัวน้อย

นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคหัวใจ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด คือความผิดปกติของโครงสร้างของหัวใจหรือหลอดเลือดหัวใจ ที่เกิดในกระบวนการสร้างหัวใจในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 5 - 12 สัปดาห์

โรคนี้แบ่งออกได้  2 ประเภท คือ

  • โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดเขียว คือเลือดดำผสมกับเลือดแดงตั้งแต่เกิด กลุ่มนี้มักมีอาการรุนแรงตั้งแต่เด็ก เช่น เหนื่อยหอบมากขณะดูดนมแม่ โตช้า และเหนื่อยง่ายตอนออกกำลังกาย
  • โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดไม่เขียว ส่วนใหญ่เกิดจากผนังหัวใจรั่ว แต่เลือดแดงกับเลือดดํายังไม่ผสมกัน กลุ่มนี้อาจมีอาการเมื่อโตขึ้นมา เช่น เหนื่อยง่าย ออกกําลังกายไม่ไหว มีน้ำหนักหรือส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์

นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย

3 ปัจจัยเสี่ยงทารกป่วย "โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด"

ปัจจัยเสี่ยงของคุณแม่ที่ทำให้เด็กเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ได้แก่

  • กลุ่มคุณแม่อายุมาก ทำให้มีความเสี่ยงที่ลูกเกิดมาเป็นโรคทางพันธุกรรม เช่น โรคดาวน์ซินโดรม ส่งผลให้เด็กเจริญเติบโตช้า มีความบกพร่องทางสติปัญญา และเสี่ยงโรคทางหัวใจประมาณ 40%
  • กลุ่มคุณแม่ที่เป็นโรคระหว่างตั้งครรภ์ เช่น

1.โรคเบาหวาน ที่ทำให้ทารกตัวโต เพิ่มความเสี่ยงภาวะหัวใจพิการแต่กำเนิดหรือหลอดเลือดหัวใจสลับขั้ว

2. โรคไข้หวัดใหญ่ ที่เมื่อเด็กโตขึ้นจะมีความเสี่ยงโรคหัวใจมากกว่าเด็กปกติถึงสองเท่า

3. โรคหัดเยอรมัน ที่จะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดของทารก

  • กลุ่มคุณแม่ที่ได้รับสารเคมีหรือได้รับยาระหว่างการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ยากันชัก ก็อาจมีผลต่อเด็กในครรภ์ คุณแม่ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์จึงต้องปรึกษาแพทย์ในการใช้ยาอยู่เสมอ
  • กลุ่มคุณแม่ที่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือใช้สารเสพติดขณะตั้งครรภ์ ที่อาจส่งผลต่อหัวใจและอวัยวะต่าง ๆ ของเด็กในครรภ์ได้

เด็กเหนื่อยง่าย - โตช้า เสี่ยง “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด”

"โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด" รักษาช้า โตไปสุขภาพแย่

หากผู้ปกครองสังเกตว่าทารกดูดนมแม่แล้วเหนื่อยหอบ ตัวเขียว น้ำหนักตัวน้อยเกินไป หรือหายใจไม่ทัน มีโอกาสเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิดได้ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ โดยการวินิจฉัยโรคจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

  • กรณีที่เด็กยังอยู่ในครรภ์ และคุณแม่อยากตรวจสอบความเสี่ยงของลูก แพทย์จะทำอัลตราซาวด์หัวใจควบคู่ไปกับการดูว่าน้ำหนักตัวเด็กสัมพันธ์กับอายุหรือไม่
  • กรณีที่เด็กออกมาแล้ว แพทย์จะตรวจคลื่นหัวใจ (Echocardiogram) และเอกซเรย์ปอด หรือใช้การ CT Scan หรือ MRI เพื่อตรวจสอบการทํางานของหัวใจเพิ่มเติม

"โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดสามารถรักษาให้หายได้ ยิ่งตรวจพบไวก็รักษาหายเร็ว ในบางรายอาจไม่มีอาการอันตรายและหายได้เองเมื่อทารกโตขึ้น ส่วนบางคนอาจต้องใช้ยารักษา แต่ถ้าในกรณีที่เด็กมีภาวะเขียว ส่วนใหญ่ต้องรักษาด้วยการสวนหัวใจหรือผ่าตัดเพื่อปิดรูรั่วหัวใจ ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์สามารถใช้อุปกรณ์สวนเข้าไปปิดรูรั่วได้เลย ไม่จําเป็นต้องเปิดอกเพื่อทำการผ่าตัดใหญ่" นพ.สุวาณิช กล่าวว่า

โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเด็กอย่างมาก ผู้ปกครองจึงควรหมั่นสังเกตสุขภาพของเด็ก ๆ อยู่เสมอ เมื่อพบอาการผิดปกติจะได้พาไปพบแพทย์ทันที ถ้าพบว่าลูกของเราเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ก็ไม่อยากให้กังวลมากเกินไป เพราะบางครั้งสามารถรักษาให้หายได้

ด้านคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยดูแลสุขภาพของเจ้าตัวน้อยให้ดี ใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ พาเด็ก ๆ ไปรับวัคซีนอยู่เสมอ และระวังเรื่องฟันผุที่อาจทำให้ติดเชื้อลงไปในหัวใจได้ ถ้าดูแลได้ดีสม่ำเสมอก็จะช่วยให้สุขภาพหัวใจของลูก ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่ได้อย่างแข็งแรง