เคยอยู่คนเดียวแล้วมีความสุขบ้างไหม ความสุขที่ว่านี้เป็นความสุขแท้ๆโดยที่ไม่มีวัตถุ ไม่มีสถานที่บรรยากาศ ไม่มีบุคคลเข้ามาร่วมแต่อย่างใด
เป็นความสุขล้วนๆ ที่ออกมาจากใจของเราอย่างแท้จริง เป็นความสุขที่ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์มากกว่าเหตุการณ์ ความสุขแบบนี้ถ้าใครมีได้นับได้ว่าใจของเขาผู้นั้นเป็นที่พึ่งแห่งใจของตนเองได้แล้ว
บางคนอาจมีความเชื่อ ว่าความสุขที่เกิดขึ้นได้เอง ที่เป็นปรากฏการณ์นั้นจะต้องถูกฝึกจิตมาอย่างอุกฤษฏ์ ต้องเคยเข้าสมาธิได้ลึกๆ ซึ่งความคิดความเชื่อแบบนี้ไม่ถูกต้อง
เพราะโดยเนื้อแท้แห่งใจของเราทุกคนนั้น ล้วนสงบงดงามอยู่แล้วกันทุกคน เพียงแต่เราไม่เคยพบ ปรากฏการณ์แห่งความสุข ที่ออกมาจากใจล้วนๆแบบนี้มาก่อนนั่นเอง จึงมีความคิด ในลักษณะของการเชื่อมโยงว่าจะต้องมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดทำให้ใจเกิดความสุขแบบนั้นได้
ในเช้าวันหนึ่ง ถ้าคุณตื่นขึ้นมาแล้วเกิดความสงบ เกิดความปิติ เกิดความสุขในใจ โดยที่คุณนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย โดยที่ไม่มีบุคคลใดหรือวัตถุอะไรเข้ามาในชีวิตเลย
ความสุขแบบนี้แหละที่เรียกว่าปรากฏการณ์แห่งความสุข เป็นสิ่งที่อาจจะบอกได้ว่าธรรมชาติของใจเรานั้น เข้ามาเติมเต็มให้เรามีความสุข ภาวะเช่นนี้จะเกิดขึ้น ต่อเมื่อคุณได้นอนหลับเต็มอิ่ม ได้มีการออกกำลังกายพอสมควร ได้รับประทานอาหารที่ไม่อิ่มเกินไป
ครั้นเมื่อคุณตื่นขึ้นมาแล้วจะเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นทุกครั้ง เพราะภาวะภายในร่างกายที่เป็นธาตุขันธ์ อันประกอบด้วย น้ำดินลมไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุเกิดความสมดุลซึ่งกันและกัน
และเชื่อได้ว่าถ้าคุณนอนไม่อิ่มหรือไม่ออกกำลังกายหรือทานอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย กล่าวง่ายๆ ว่าบกพร่องส่วนใดส่วนหนึ่งไปความสมดุลของธาตุย่อมไม่ปรากฏขึ้นและปรากฏการณ์แห่งความสุขก็จะไม่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
การที่เราได้เรียนรู้ศาสนาทั้งแบบเถรวาทและมหายาน จะทำให้เรามีมุมมองของชีวิตที่ง่ายขึ้นกว้างขึ้น เราจะได้เห็นมิติใหม่ๆ ของการนำพาความสุขมาสู่ชีวิตของเราความสุขที่แท้จริง ที่ปราศจากวัตถุ ปราศจากสถานที่ ปราศจากบุคคลอื่นๆ เป็นความสุขที่แท้จริงที่เกิดขึ้นจากใจของเราล้วนๆ
ไม่ต้องฝึกฝนอะไรเป็นพิเศษแค่พยายามใช้ชีวิตตามธรรมชาติให้เกิดความสมดุลกับชีวิตเพียงแค่นี้ก็มีความสุข ที่เรียกว่าปรากฏการณ์แห่งความสุขแล้ว