งวดเข้ามาแล้วกับศึกการชิงเก้าอี้เสาชิงช้า หลายคนบอกว่าแบเบอร์ในใจว่าใครเข้าวิน...
แต่ความจริงต้องไม่ลืมและไม่ประมาทว่า "ที่ว่าแน่อาจไม่แน่เสมอไป"
ดวงดาวของประเทศไทย มีอะไรให้เซอร์ไพร์เสมอ เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ในมิติทางการเมืองสะท้อนให้เราเห็นเสมอว่า
บางครั้งสิ่งที่เห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอไป คนเมืองกรุงแท้ๆ มีวิธีคิดค่อนข้างสลับซับซ้อนเหมือนการเมืองที่เป็นเฉกเช่นศิลปะแห่งการซ่อนเร้น
หลายโพล ต่างนำเสนอข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป บางสำนักกลายเป็นโพลจัดตั้ง ดังนั้นวันนี้ดาต้าของโพลความน่าเชื่อถือเหลือไม่มากเหมือนเก่า
แต่สำหรับเรื่องดวงดาวอย่างไรยังคงชี้ชัดอะไรได้มากกว่าคำว่ากระแส การพยากรณ์แบบตรงไปตรงมาไม่เลือกข้างใดจะทำให้การวิเคราะห์ทางสถิติค่อนข้างแม่นยำและสมบูรณ์แบบ
การใช้ดวงเมืองเป็นที่ตั้งและร่วมกับดาวที่โคจรเปลี่ยนตามวิถีพร้อมกับราศีเกิดของผู้สมัครเป็นโพลชั้นดีที่มีผลมากกว่า 70% ถึงความน่าจะเป็น
6 ตัวเต็งผู้สมัคร.. มีราศีที่แตกต่างกันดังนี้
ดวงเมืองอยู่ในราศีเมษ เมื่อมองแค่เพียงเรื่องของราศีผู้ที่สมัครชิงผู้ว่าแล้ว จะพบว่าราศีที่เป็นมิตรแก่ราศีเมษ คือ ราศีพฤษภเป็นเหมือนกระเป๋าเงินของราศีเมษ
ราศีตุลย์ เหมือนหุ้นส่วนของราศีเมษ ราศีกุมภ์เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่รู้ใจราศีเมษ
ส่วนผู้ที่เกิดราศีเมษก็เหมือนกับผู้ที่อยู่กับตัวเอง
ชัชชาติ ผู้สมัครหมายเลข 8
สุชัชวีร์ ผู้สมัครหมายเลข 4
ศิธา ผู้สมัครหมายเลข 11
อัศวิน ผู้สมัครหมายเลข 6
วิโรจน์ ผู้สมัครหมายเลข 1
สกลธี ผู้สมัครหมายเลข 3
จากอ่านวิถีแห่งดวงดาวนั้นทำให้เรามองเห็นวิถีของดาวของแต่ละดวงที่แตกต่างกันออกไป แต่จะมายึดถือวิถีแห่งดาวนี้เพื่อเป็นการตัดสินใจในการเลือกผู้ว่ากทมในครั้งนี้ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจผู้คนจากความรู้ความสามารถเท่านั้นในมุมของโหราศาสตร์ก็เป็นดุจเข็มทิศเล็กๆเข็มหนึ่งประกอบในความน่าจะเป็นต่างๆของมนุษย์ชาติ
แต่สิ่งที่ปรารถนามากที่สุด อย่านอนหลับทับสิทธิ์ออกมาร่วมด้วยช่วยกันเพื่อกรุงเทพฯ คนที่มีสิทธิเลือกตั้งแต่ไม่ไปเลือกตั้งส่วนตัวผมมองว่า ใจแคบคิดถึงแต่ตนเองแต่ไม่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม
#ติดตามราชรามัญ https://www.facebook.com/rajraman164