หลายวันก่อน ผมนั่งคุยกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในวัยเดียวกันกับผม มีเพื่อนท่านหนึ่งเปิดประเด็นว่า เขาได้ไปผ่าตัดต่อมลูกหมากมา อีกท่านหนึ่งจึงพูดต่อว่า ปัจจุบันนี้วิวัฒนาการทางด้านการแพทย์ดีมาก น่าจะไปพบแพทย์หลายๆ โรงพยาบาลก่อน เพื่อขอให้แพทย์ช่วยตรวจและวินิจฉัยดูก่อน ว่าควรจะต้องผ่าตัดหรือไม่?
เพราะปัจจุบันนี้มีวิธีการรักษาได้หลากหลายรูปแบบ จึงเป็นที่มาที่ทำให้ผมต้องไปสืบค้นดู ในเรื่องของโรคต่อมลูกหมากโต ที่เราชาวชายวัยสูงอายุหวั่นเกรงกันมากครับ
จากการสืบค้นในฐานข้อมูลการทำวิจัยหลายๆ เรื่อง ที่เกี่ยวกับ “โรคต่อมลูกหมากโต” ทำให้ได้รู้ว่า สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต มาจากการเจริญเติบโตของเซลส์และเอสโตเจนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ต่อมใต้สมองมีการหลั่งสารตัวหนึ่ง คือสารโปรแล็คติน เพิ่มมากขึ้น เจ้าตัวสารโปรแล็คตินตัวนี้ ก็จะไปกระตุ้นให้สารเทสโทสเตอเรนทำงานมากขึ้น
จึงทำให้ท่อส่งปัสสาวะในต่อมลูกหมากตีบตัน เฮ้อ...ฟังแล้วก็งงใช่มั้ยครับ เพราะเป็นศัพพ์แสงที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยกันเลย เอาเป็นว่าสรุปง่ายๆ คือ สาเหตุมาจากสารเคมีบางตัวในตัวเรา ที่ไปทำให้ท่อส่งปัสสาวะของเราอุดตันก็พอครับ จะได้เข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องสับสนดีครับ
ที่นี้เรามาดูกันต่อว่า การเกิดปัญหาต่อมลูกหมากโตเกิดขึ้นกับใคร? และจะสังเกตได้อย่างไร? แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเกิดกับชายชราอย่างผมนี่และครับ เพราะจากผลของการวิจัยฯ ผู้สูงวัยเพศชายชาวไทย มีโอกาสเป็นโรคต่อมลูกหมากโตมากถึง 80% เลยทีเดียว
นอกจากนี้ ผลอีกประการหนึ่งของการสำรวจ พบว่าผู้ที่ชอบดื่มแอลกอฮอร์ หรือติดบุหรี่ จะเกิดโรคนี้ได้มากกว่าคนที่ไม่ดื่มและไม่สูบบุหรี่ และอายุของผู้สูงวัยก็มีผลสัมพันธ์กับการเกิดของโรคนี้เช่นกัน โดยผู้สูงวัยชาย อายุตั้งแต่ 60 ปี จะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากถึง 50% ในขณะที่คนอายุ 90 ปี จะมีโอกาสเป็นมากถึง 80% เลยทีเดียว
ดังนั้นเวลาที่เราเห็นชายชราวิ่งไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ และไปไม่ทัน หรือว่า “ฉี่เล็ด” ก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปทานข้าวกับเพื่อนๆ รุ่นน้องที่เรียนด้วยกัน แล้วก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เผอิญว่าก๊อกน้ำที่ห้องน้ำในร้านอาหาร ค่อนข้างจะแรงมาก พอเปิดน้ำมาล้างมือ น้ำก็กระเด็นมาใส่ถูกกางเกงเปียกแฉะเล็กน้อย พอกลับมาถึงโต๊ะที่นั่งทานกันอยู่ ก็มีน้องคนหนึ่ง มองมาที่เป้ากางเกงผม ผมต้องรีบบอกไปเลยว่า “ก๊อกน้ำที่นี่ไม่ดีเลยนะ น้ำแรงมาก รู้นะว่าเราคิดอะไรอยู่ พี่ยังไม่ได้แก่พอที่จะฉี่ราดกางเกงหรอกน่า...”
ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณที่จะบอกว่าเป็นโรคต่อมลูกหมากโตละครับ อาการอื่นๆ ที่สังเกตแล้วควรจะไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ นั่นคืออาการปัสสาวะไม่ค่อยออก ปัสสาวะติดๆ ขัดๆ หรือปวดปัสสาวะบ่อย เป็นต้น นี่ล้วนแล้วแต่ส่อสัญญาณว่าใกล้แล้วละ ที่พระเจ้าจะประทานต่อมลูกหมากอันใหญ่ๆมาให้ .....ฮา
ส่วนผมยังไม่ว่างที่จะรับนะครับ โรคต่อมลูกหมากโตอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่นๆ ได้แก่ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โรคกระเพาะปัสสาวะเสื่อม ปัสสาวะเป็นเลือด ที่สำคัญที่สุดคือโรคไตเสื่อม เป็นต้น แต่ละโรคไม่น่าเป็นเลยนะครับ
อาการของโรคต่อมลูกหมากโต วิธีการรักษาของแพทย์แต่ละท่าน ก็คงไม่แตกต่างกันมาก อยู่ที่การวินิจฉัยของแพทย์ว่า อาการหนักเบาเพียงใดมากกว่าครับ ส่วนใหญ่แพทย์ก็จะให้ทานยาขับ ใช้ระบบการฉายรังสี การผ่าตัด ที่ทันสมัยกว่านั้น คือการใช้เทคโนโลยีระบบไอน้ำ มาช่วยลดขนาดต่อมลูกหมาก หรือที่เรียก Resume Water Vapor Therapy
โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือและกล้องสอดผ่านท่อปัสสาวะ เข้าไปยังต่อมลูกหมาก จากนั้นจะฉีดไอน้ำที่มีอุณหภูมิ 106 องศาเซลเซียสเข้าไปในต่อมลูกหมากประมาณ 6 ถึง 10 ครั้ง วิธีการนี้แพทย์ไม่ต้องให้ดมยาสลบ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล และจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาเหมือนการผ่าตัดครับ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของโรคผู้สูงวัยต่างๆ ผมมักจะพูดว่า ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาของพฤติกรรมการดื่มกินเป็นหลัก เมื่อเราอายุมากแล้ว การทานอาหารก็ควรจะต้องระมัดระวังนะครับ อย่าได้ตามใจปากตัวเองมากจนเกินไป ไม่ต้องกังวลหรอกครับว่า หากเราเสียชีวิตไปแล้ว จะเป็นวิญญาณอนาถาไม่ได้กินในสิ่งที่ตนเองอยากกิน เพราะว่าเราไม่รู้สึกตัวไปแล้ว ก็ปล่อยๆไปเถอะ....ไม่ต้องคิดมาก
ช่วงที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราต้องพยายามอย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากเกินไป เพราะจะทำให้เรามาลำบากเอาตอนแก่นี่แหละครับ เราต้องพยายามอย่าให้ช่วงบั้นปลายของชีวิต ต้องไปนอนแหมะไม่รู้สึกตัวบนเตียงอย่างยาวนาน เพราะนอกจากจะทรมานตัวเองแล้ว ยังเป็นภาระของลูกหลานอีกด้วย ยิ่งถ้าตอนที่นอนติดอยู่บนเตียง ฉี่ก็ฉี่ไม่ออก ต้องเจาะรูเพื่อระบายเอาของเสียออกจากร่างกาย หรือถ่ายก็ถ่ายไม่ได้ ต้องให้พยาบาลมาช่วยล้วงก้น มันไม่สนุกเลยนะครับ
ดังนั้นตอนที่ยังแข็งแรงอยู่ เราต้องดูแลตัวเองให้ดี โดยต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ อย่ารอให้สายเกินแก้ครับ