ททท. เปิดศึกสังเวียนสุดท้าย AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN 2024

21 ธ.ค. 2567 | 10:17 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2567 | 10:28 น.

ททท. ร่วมกับ สนามมวยเวทีราชดำเนิน จัดศึกมวยไทยนานาชาติ Amazing Muaythai, Road to Rajadamnern 2024 มุ่งใช้กีฬามวยไทยมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าเป็นจุดขายสำคัญในการสร้างกระแสดึงดูดให้นักท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับบริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด ชูจุดแข็งสู่จุดขายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยใช้ซอฟพาวเวอร์เสน่ห์กีฬามวยไทย ศิลปวัฒนธรรมการต่อสู้ของไทยที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกมาต่อยอดสร้างกระแสความสนใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านกิจกรรม AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN 2024 ซึ่งดำเนินการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่องใน 3 ประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรสเปน เครือรัฐออสเตรเลีย และสาธารณรัฐเช็ก เพื่อเฟ้นหานักมวยที่มีผลงานโดดเด่น

ททท. เปิดศึกสังเวียนสุดท้าย AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN  2024

และในครั้งนี้ถือเป็นศึกสังเวียนสุดท้ายซึ่งจัดขึ้นที่สนามมวยเวทีราชดำเนิน การจัดกิจกรรมครั้งนี้ นอกจากจะนำเสนอประสบการณ์มวยไทยควบคู่ไปกับซอฟพาวเวอร์ต่าง ๆ ของไทย อาทิ อาหาร แฟชั่น เฟสติวัล ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความสนใจด้านกีฬามวยไทย (Must Try)

รวมถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งนักท่องเที่ยว First Visit, Revisit และ Millennials เพื่อสร้างกระแสความสนใจในต่างประเทศแล้ว ยังมุ่งสร้าง ecosystem เสริมความแข็งแกร่งของกีฬามวยไทยในต่างประเทศ ด้วยการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันที่มีผลงานโดดเด่นและมีผู้ติดตามจำนวนมากมาร่วมแข่งขัน เพื่อเผยแพร่สร้างการรับรู้ในวงกว้าง สอดรับกับมาตรการของรัฐบาลในการออกวีซ่ารูปแบบพิเศษวีซ่ามวยไทย ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาเรียนมวยไทยในค่ายมวยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย (สคม.) ได้นานถึง 90 วัน อีกทั้งศักยภาพของค่ายมวยและยิมมวยไทยที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ

ททท. เปิดศึกสังเวียนสุดท้าย AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN  2024

ททท. หวังว่ากิจกรรมดังกล่าวจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบกีฬามวยไทยให้เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการสร้างประสบการณ์ฝึกฝนมวยไทยและท่องเที่ยวพักผ่อนในประเทศไทย

กิจกรรม AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN ในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ณ สนามมวยเวทีราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร มีนักมวยไทยเข้าร่วมแข่งขัน 4 คู่หลัก ประกอบด้วย คู่ที่ 1 การแข่งขันชกมวยไทยชาย Lightweight (รุ่นน้ำหนัก 135 lbs) ยอดทนง เพชรวังล่าง ดีกรีแชมป์ รายการ Max Muay Thai รุ่น Lightweight พบกับ โทมิค เหงียน ดีกรี CZECH MUAY THAI CHAMPION ผู้ชนะจากสาธารณรัฐเช็ก

ททท. เปิดศึกสังเวียนสุดท้าย AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN  2024

คู่ที่ 2 การแข่งขันชกมวยไทยหญิง Featherweight (รุ่นน้ำหนัก 126 lbs) เพชรใหม่ ส.ประชายิมส์ ดีกรี อดีตแชมป์ MUAY SIAM ISAN REGION พบกับ ไบรโอนี่ โซเดน ดีกรี WBC MUAY THAI INTERNATIONAL รุ่นแบนตั้มเวทในปัจจุบัน ผู้ชนะจากเครือรัฐออสเตรเลีย

คู่ที่ 3 การแข่งขันชกมวยไทยชาย Super Featherweight (รุ่นน้ำหนัก 130 lbs) วูฅอง ศิษย์เจริญวิทย์ ดีกรี นักชกดาวรุ่งจากโปรโมเตอร์ ส.สมหมาย และอดีตแชมป์ สนามมวยอ้อมน้อยรุ่น Super Featherweight พบกับ อิบราฮิม อาบู ซาเล ดีกรี แชมป์ WBC MUAY THAI AUSTRALIA NATIONAL และ ผู้ชนะจากเครือรัฐออสเตรเลีย

คู่ที่ 4 การแข่งขันชกมวยไทยชาย (รุ่นน้ำหนัก 120 lbs) ยอนิส อานาน วีนั่มมวยไทย ดีกรีแชมป์ WBC MUAYTHAI SUPER FLYWEIGHT WORLD พบกับ เควิน มาร์ติเนซ ดีกรีอดีตแชมป์  WMC EUROPEAN BANTAMWEIGHTและ อดีตแชมป์ SBS EUROPEAN FEATHERWEIGHT ผู้ชนะจากราชอาณาจักรสเปน โดยผู้ชนะจากการแข่งขันในแต่ละคู่จะได้รับโล่รางวัล AMAZING MUAYTHAI, ROAD TO RAJADAMNERN 2024

สำหรับการแข่งขัน Final Event ได้เนรมิตตกแต่งพื้นที่สนามมวยราชดําเนินเวทีมวยมาตรฐานแห่งแรกของไทยที่เปรียบเสมือนบ้านเกิดมวยไทยเป็นบรรยากาศงานวัดไทย (Temple Fair) โดยมีการจัดบูธกิจกรรมนําเสนอเสน่ห์ไทยในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารไทยที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ข้าวมันไก่ ผัดหมี่โคราช ทับทิมกรอบและลอดช่อง กิจกรรม DIY สานปลาตะเพียน กิจกรรมปาโป่ง และ ตู้ต่อยมวย รวมถึง Photo Booth ให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนุกถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ทั้งนี้ ตลอดการดำเนินโครงการฯ ททท. ได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม Amazing Muaythai, Road to Rajadamnern 2024 โดยนำเสนอเสน่ห์กีฬามวยไทยและการท่องเที่ยวไทยผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ทั้ง Offline และ Online อาทิ การผลิตสปอตประชาสัมพันธ์กิจกรรม เพื่อเผยแพร่ในช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ประเภท Out of Home ในพื้นที่เป้าหมาย และสื่อสารผ่าน Influencers หรือ KOL ต่างชาติที่มีชื่อเสียง รวมถึงเข้าร่วมงานในพื้นที่จัดกิจกรรม ได้แก่ ราชอาณาจักรสเปน เครือรัฐออสเตรเลีย สาธารณรัฐเช็ก และ ประเทศไทย เพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความสนใจและเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยจากการจัดกิจกรรมใน 3 พื้นที่ ได้แก่ เมืองกาดิซ ราชอาณาจักรสเปน เมืองเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย และ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก มีผู้เข้าชมการแข่งขันและเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 4,000 คน ตลอดจนสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์จำนวนทั้งสิ้นกว่า 265,000 คน-ครั้ง