KEY
POINTS
ธรรมะ เป็นวงกลม จะเริ่มศึกษาปฏิบัติจากจุดไหนทุกอย่างก็จะนำพาเวียนบรรจบมาพบกันทุกข้อ
ธรรมะ กงล้อธรรมจักรที่ขับเคลื่อนเป็นเช่นนี้มากว่า 2500 ปี จะมีประโยชน์อันใดจะมานั่งวิพากษ์กัน ผู้มีปัญญาแจ่มแจ้งข้อธรรมมักไม่กล่าวคำหยาบคายใดๆ ไม่ยกตนข่มใคร รู้กาลใดควรไม่ควร ไม่ตอบโต้ใดๆ กับสิ่งอันไร้สาระ ที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อธรรม มีความอ่อนน้อมในองค์พรหมเป็นที่ตั้ง
เล่ากันในคัมภีร์ว่า ครั้นตรัสรู้แล้ว เห็นว่าธรรมนี้เป็นสิ่งรู้ตามได้ยาก ไม่ปรารถนาจะเผยแผ่ แต่แล้วองค์พรหมเสด็จลงมาทูลขอด้วยปิยวาจาว่า
"พอมีผู้รู้ตามได้"
ในคัมภีร์เก่าสายนาคารชุน ฝ่ายปรัชญา เล่ากันว่า พรหมที่มาทูลนั้น แท้จริงเป็นพรหมที่มาจากในใจของพระองค์เอง ผู้รู้แจ้งโลกเช่นนี้ไม่ต้องให้ใครมาชี้แนะใดๆ แต่สายเถรวาทเชื่อว่าเป็นองค์พรหมจริงๆ ก่อนพระขึ้นเทศนาจึงมีการสวด อาราธนาธรรม ในเชิงพิธีกรรม ซึ่งเป็นความงดงามอย่างหนึ่งในจารีตประเพณี
ธรรมอันยิ่งเป็นดุจพื้นฐานของชาวพุทธ ที่จะต้องมี และชาวพุทธหลายคนรู้จักธรรมนี้ แต่ทว่าการปฏิบัติอาจเข้าใจที่ลึกซึ้งแตกต่างกัน เพราะหลายคนอาจตั้งคำถามในใจว่า ธรรมข้อนี้ปฏิบัติแล้วเราได้อะไรบ้าง
พรหมที่ชาวพุทธต้องมี คือ "พรหมวิหารสี่"
เมตตา ที่เราทราบ คือ การสละช่วยเหลืออภัยผู้อื่น
กรุณา ที่ทราบกัน คือ ความปรารถนาช่วยเหลือผู้อื่น
มุทิตา ที่ทราบคือ ยินดีกับผู้อื่นเมื่อเขาสมปรารถนา
อุเบกขา ที่ทราบคือ การนิ่งวางเฉย
คำถามที่มีผู้ถามมาเสมอ คือ ปฏิบัติพรหมวิหารแล้วได้อะไร ได้เป็นพรหม อย่างนั้นหรือ
ขอนำองค์ความรู้เกี่ยวกับ พรหมวิหาร เมื่อปฏิบัติแล้ว เราจะได้รับการพัฒนาในจิตใจด้านใดบ้าง และได้รับสิ่งใดมาเป็นกำลังใจในการปฏิบัติต่อไป
เมตตา เมื่อเรามีความเมตตาในใจ ต่อบุคคลทั้งหลาย อย่างไม่มีประมาณ ผลแห่งความเมตตานั้น เราจะได้รับกำลังใจ จากบุคคลที่เราเมตตาไป นั่นก็คือ ความรัก
กรุณา เมื่อเราได้กรุณา กับผู้ใดผู้หนึ่งไป โดยไม่ปรารถนาสิ่งใดตอบแทนอย่างแท้จริง สิ่งที่เราจะได้การตอบรับกลับมา ใจเราเองนั่นแหละที่จะสามารถละความทะนง ความหยิ่งผยองต่างๆ ลงได้ เราจะวางหลายสิ่งอย่างได้
มุทิตา เมื่อเราแสดงความยินดี กับผู้อื่นเมื่อเขาได้ดีหรือสมปรารถนาของเขา สิ่งที่เราจะได้กลับมา คือ ละความริษยา ละความอิจฉา ตลอดทั้ง จิตใจของเราจะมีความเย็นขึ้นสงบขึ้น
อุเบกขา เมื่อเรารู้จักการนิ่งการวางเฉย เมื่อมีสิ่งใดมากระทบ แล้วเราไม่มีภาวะอารมณ์ ใดๆ ไปตอบโต้ในสิ่งนั้น สิ่งที่เราจะได้กลับมาก็คือ ปัญญา เราจะเป็นบุคคลที่มีปัญญามากขึ้น ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ มองเห็น ความทุกข์ต่างๆว่าเกิดขึ้นด้วยเพราะอะไรแล้วสามารถแก้ไขได้
องค์พรหมแบบนี้แหละที่ ชาวพุทธควรจะต้องมี เพราะเป็นพรหมที่สามารถปฏิบัติแล้ว พัฒนาความคิดความรู้สึกจิตใจของเราให้ได้รับสิ่งที่ดีขึ้น ตามลำดับ อาจเรียกได้ว่า พรหมวิหาร 4 สามารถบ่มเพาะอินทรีย์ของเรา ให้แก่กล้ามากยิ่งขึ้น ตลอดทั้ง เป็นธรรมเบื้องต้น เหมาะกับ ฆราวาสผู้ใช้ชีวิตในโลกียะ ที่ต้องทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำ เพราะทำในข้อนี้ จะเปลี่ยนแปลงจิตใจของเรา ให้เป็นผู้ที่เข้าใจในสิ่งทั้งปวงได้มากขึ้น ตลอดทั้งสามารถ มองเห็นปัญหาได้อย่างแท้จริง ด้วยสติปัญญา มากกว่าการ ใช้อารมณ์
ผู้ใดที่มีพรหมวิหาร 4 เพียงแค่นี้ ชีวิตก็มีความสุขมาก เกินกว่ามนุษย์ทั้งหลาย ที่ไม่มีธรรมใดๆ เลย หรือต่อให้รู้ธรรมเพื่อการหลุดพ้น แต่พรหมวิหาร 4 ไม่มี หรือรู้ธรรมจากตำราแต่ไม่ลึกซึ้ง ธรรมะเพื่อการหลุดพ้นที่รู้นั้น ก็เหมือนเป็นการ รู้เพียงแค่ใบลานเปล่า ไม่มีประโยชน์สิ่งใด ที่กลับมาพัฒนาจิตใจให้ดีขึ้น
พรหมในใจแบบนี้ มีแล้วความสงบ คัมภีรภาพย่อมปรากฏอย่างแท้จริง