พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เกิด 5 กันยายน 2523
เมื่อครั้งที่ หลังเลือกตั้งแล้วเสร็จ วันนั้นดาวราหูยังสถิตอยู่ที่ราศีเมษ ดวงของนายพิธา อยู่ในลัคนาราศีสิงห์ ความสัมพันธ์ ระหว่างดาวราหูไม่ดี จึงส่งผลให้ถูกราหู ผลักดัน ให้ออกจากเวทีทางการเมือง เพราะดาวราหูนั้น จะว่าไปไม่ค่อยถูกกับดาวอาทิตย์ดาวพฤหัสบดีและดาวเกตุ ซึ่งอยู่ในดวงชะตาของคุณพิธาในราศีสิงห์ คือ ๑๕๙ ในวันนั้นจึงเหมือนกรรมเก่ามาตัดรอน มรสุมมารอบด้าน ทำให้เกิดภาวะสุญญากาศ ของตัวเอง ในครั้งนั้น จึงพยากรณ์ไปว่า คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างแน่นอน
ในวันนั้นหลายคนเข้าใจว่า ผู้พยากรณ์มีใจฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น ต้องขอบอกว่าการพยากรณ์บุคคลสาธารณะในทางการเมือง ผู้พยากรณ์ต้องมีใจเที่ยงตรงไม่โอนเอียงฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทุกอย่างว่าไปตามสภาวะการโคจรของดวงดาวที่ให้สัญญาณมา ไม่เคยมีเป้าหมายพึ่งบารมีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเพื่อตำแหน่งแห่งหนในทางการเมือง นักพยากรณ์ที่มีจรรยาบรรณทุกคนต่างเป็นดาวฤกษ์ มีแสงในตัวเอง ไม่ต้องยืมแสงผู้อื่น ไม่ต้องยืมบารมีคนอื่นมาเป็นบารมีตัวเอง
ในวันนี้ดวงพิธาเปลี่ยนแล้ว เป็นวันที่ ดาวราหูได้ย้ายออกจากราศีเมษไปสถิตอยู่ราศีมีน ทำให้ไม่สามารถส่งถึงดวงชะตา ของนายพิธา เหมือนดั่งก่อนเก่า กลับกันดาวเสาร์ เล็งลัคนาราศีสิงห์โดยสถิตอยู่ที่ราศีกุมภ์ และโยกโยงไปถึง ดาวพฤหัสและดาวเกตุที่ราศีเมษ ได้เกณฑ์ศักดินาใหญ่ และแรงกระตุ้นขับเคลื่อนจากบุญเก่าแห่งดาวเกตุ
เมื่อดวงดาวโคจรแบบนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต้องได้รับข่าวดี ในช่วงนี้อย่างแน่นอน ยิ่งเป็นดาวดวงใหญ่ที่โคจรโยกโยงถึงกันและกัน ยิ่งทำให้มีโอกาสในการกลับมาเป็นสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎร มีสูงมาก
ราศีสิงห์ เป็นราศีบริวารและความพยายามของดวงชะตาเมืองไทย ถ้ามีความตั้งใจมั่นที่จะช่วยพัฒนาเมืองในทางที่ถูกต้องและไม่ขัดแย้งต่อจารีตประเพณีวัฒนธรรมของสังคม และของวิถีการเมืองที่พึงปฏิบัติมา ในอนาคตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังไม่สายที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีในบ้านเมืองนี้ ยิ่งอีก 4 ปีข้างหน้า ดวงดาวของนายพิธายิ่งโคจรทำมุมดี ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะเลือกตั้งแล้วคำว่า แลนด์สไลด์ไม่ไกลจากความจริง