ที่สิงห์บุรี ริมถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพฯ ละแวกเดียวกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองสิงห์ ยังมียอดฝีมือรมควันเผาปลาช่อนจากน้ำแม่ลา ด้วยกะลากาบมะพร้าวจนผิวนอกสวยเข้าเปนทองคำดำเกล็ดวาววามอยู่เจ้าหนึ่ง คือคุณลุงเจิด_ปลาเผา
เบื้องลึกเบื้องหลังที่มาที่ไปลุงเจิดเปนอย่างไรเราไม่ได้สนใจล้วงละลาบถามหา ชั่วแต่ว่าฝีมือเผาปลาของลุงนั้นฉ่ำชุ่มมันปลา หอมระรวยชวยกลิ่นควันไฟอย่างที่ไม่ควรจะรอให้ท้องร้องแล้วค่อยไปหามากิน55
ปลาช่อนตัวเขื่องๆของลุงมีทั้งแบบพุงแบบไข่ ท่านใดพิศมันพุงปลามันๆ อย่าได้โดดข้ามไป
หน้าหนาวสะเดามันแทงยอด รสขมสุขุมแห่งปุ่มดอกมันนั้นเข้ากันดีเหลือหลายกับปลาสดเนื้อเต่งทำเผา
ยิ่งได้นำ้ปลาหวานใสๆ ลอยใบผักชีพริกทอดและหอมแดงสดซอยมา ตัดด้วยน้ำจิ้มยอดปรารถนาสมัยนี้คือพริกกระเทียมบีบมะนาวแล้วไซร้ ให้ข้าวหม้อหนึ่งจะขอดกันหมดมิรู้ตัว
เมนูประเภทผัดเผ็ดเครื่องแกงแดงๆ ลุงก็ทำได้ดีทั้งหมูป่า หมูบ้าน นก หนู กินกับเนื้อเค็ม หรือไม่ก็ปลาช่อนแดดเดียวทอดน้ำมันใหม่สด ไม่หืน
อีกอย่างที่ใคร่อยากชวนท่านลองชิม ก็คือปลาจีนทำปลาร้าสด แล้วทอดกรอบผิวนอก บีบน้ำมะนาวแท้ๆโรยพริกสด หอมแดงซอยฝอยใบมะกรูด
เมนูนี้พวกชาววังว่าทางจังหวัดตั้งสำรับคับค้อนงานใหญ่ครั้งใดมีไว้มิขาดเลย
ลุงเจิดว่านี่น่ะปลาร้าทอด แต่จริงแล้วเปนปลาใหญ่หมักเกลือแล้วข้าวคั่วไม่ทันจะร้าดีหรอก เรียกว่าปลาร้าสดก็น่าจะได้ ไอเค็มและความคาวยังไม่ทันจับชิ้นปลาดีนัก ลุงก็หยิบควักมาล้างสะเด็ดน้ำดีแล้วทอดหนังกรอบน้ำมันลอย กินอร่อยกินมันเปนบ้า ยิ่งตั้งมาคู่กับแกงคั่วหอยขมหนุบๆใส่ชะอมและยอดมะพร้าวกรอบๆ เผ็ดร้อนสุขุมในรสหวานมันแห่งกะทิ เรียกเหงื่อพราวหน้า
งานนี้ท่านที่ว่าการบรั่นดีอย่าสั่งมากินเลยครับ มันเปลืองกับไม่สู้เปลืองเหล้าเปลืองโซดา!
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 หน้า 18 ฉบับที่ 3,837 วันที่ 20 - 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565