การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2565 มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่...) พ.ศ.... หรือ ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับของ พรรคก้าวไกล
หลังจากที่ใช้เวลาพิจารณาวาระสองเรียงลำดับรายมาตรา กว่า 3 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติ 177 เสียง ต่อ 174 เสียง งดออกเสียง 11 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 เสียง จากจำนวนผู้ลงมติ 365 เสียง ไม่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ในวาระ 3 ทำให้ พรรคก้าวไกล แพ้ไป 3 เสียง
แต่ยังไม่จบลงเท่านั้น เพราะ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อที่ 85 ขอให้นับคะแนนใหม่และลงมติใหม่ด้วยการ “ขานชื่อ” เนื่องจากคะแนนเสียงที่ลงมตินั้น มีการต่างกันไม่เกิน 25 เสียง จนนำไปสู่การลงมติใหม่ด้วยการขานชื่อเป็นรายบุคคล
ผลการลงมติด้วยการขานชื่อ ปรากฏว่า มีส.ส.เห็นด้วย 194 เสียง ไม่เห็นด้วย 196 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง จำนวนผู้ลงมติ 405 เสียง พรรคก้าวไกล แพ้ไป 2 เสียง
ทั้งนี้พบว่า ในการลงมติ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคภูมิใจไทย ส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วย และมีส.ส.หลายคนไม่ขานลงมติ ขณะที่บางส่วนงดออกเสียง
ปิดฉากก.ม.สุราก้าวหน้า
การที่ ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับของพรรคก้าวไกล “ตกไป” ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2565 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เข้าหารือ ซึ่งเป็นการเรียกไปสอบถามความเห็นของแต่ละพรรคเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล
โดยวงหารือได้ถกประเด็นนี้กันอย่างเข้มข้น ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า ไม่อยากให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ โดยอ้างว่า หากกฎหมายผ่านสภาจะไม่มีมาตรการรองรับความปลอดภัย เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องการต้มสุราเถื่อนและการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ แตกต่างจากพวกผู้ผลิตรายใหญ่ในปัจจุบันที่ผลิตถูกต้องตามกฎหมาย มีมาตรฐานสูงและสามารถรับผิดชอบคุณภาพได้
นอกจากนี้ จะมีการขาย “สุราเถื่อน” เกลื่อนเหมือนกับเรื่อง “กัญชาเสรี” ที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่ แล้วจะรับผิดชอบกันไม่ไหว ถ้าเกิดมีการต้มเหล้าผิดกฎหมาย
“กฎหมายบางอย่างถ้าฟรีมากไปก็เกิดปัญหา ต้องหามาตรการควบคุมด้วย” แหล่งข่าวถ่ายทอดคำพูดของนายกรัฐมนตรี
ถัดมา 1 พ.ย.2565 ก่อนหน้าจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 พ.ย. เพียงวันเดียว ปรากฏว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ชิง “ปาดหน้า” พรรคก้าวไกล ด้วยการเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. …. จากเดิมมีการกำหนดใบอนุญาต 2 ประเภท คือ การผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์ และสุรากลั่นชุมชน แต่ให้ยกเลิกการกำหนดจำนวนทุนจดทะเบียน และกำลังการผลิตขั้นต่ำทั้งหมด
ตีความง่าย ๆ คือ เป็นการปลดล็อกการผลิตสุราพื้นบ้าน ที่ครัวเรือนสามารถผลิตกินได้เอง แต่ต้องไม่ทำเชิงพาณิชย์ และเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กด้วย
พิธานำสุราก้าวหน้าหาเสียง
ภายหลัง ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ถูกคว่ำในสภาฯ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าว โดย นายพิธา กล่าวว่า ตนยังกำลังใจดี เสียดาย แต่ไม่เสียใจ เพราะเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ พรรคก้าวไกลยังยิ้มสู้อยู่
“ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่สามารถปลดล็อคความเหลื่อมล้ำ ความอยุติธรรมในอุตสาหกรรมเค้าโครงเศรษฐกิจไทยได้ แต่เชื่อว่าสามารถปักหมุดในระดับหนึ่งในการทลายทุนผูกขาด”
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ แน่นอนว่า “นโยบายสุราก้าวหน้า” จะเป็นเรือธงของพรรคก้าวไกล ซึ่งหากประชาชนชอบนโยบายในลักษณะนี้ก็ขอให้เลือกพรรคที่สนับสนุนเกี่ยวกับสุราก้าวหน้า หรือ ทลายทุนผูกขาด ในที่สุดจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับระบบเศรษฐกิจไทย ระบบทุนนิยมไทยใหม่ เพื่อพาผู้ประกอบการ เกษตรไทยไปสู่เวทีโลกให้ได้
ด้าน นายเท่าพิภพ กล่าวว่า “ผมยอมรับว่า เสียเหลี่ยมทางการเมืองของผู้เฒ่าในทำเนียบรัฐบาล ถ้าเรามีกฎกระทรวงที่อยากจะให้แก้ตั้งแต่แรก เขาคงไม่ออกกฎกระทรวงแบบนี้มา ดังนั้นผมจะร่างกฎกระทรวงเตรียมไว้เลย และจะเริ่มแคมเปญตั้งแต่เมื่อเสร็จ ถึงวันนั้นทุกคนจะรู้ว่า ทำไมต้องเลือกก้าวไกล ถ้าเลือกตั้งรอบหน้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราก็แก้ได้ภายใน 2-3 วัน ก็เลยมีความหวังว่าสุดท้ายมันจะไปทางนั้นได้”
+“อุ๊งอิ๊ง”ดันสุราเสรี
อุ๊กอิ๊ง- แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2565 ถึงร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่า พรรคเพื่อไทย ยืนยันที่จะสนับสนุน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ให้ผ่านสภาให้ได้ แม้ว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ประชุม ครม. จะแก้กฎกระทรวงเรื่องใบอนุญาตการผลิตสุรา ให้สุราชุมชนขายได้
แต่การแก้กฎกระทรวงของ ครม.มีรายละเอียดซ่อนไว้และไม่ได้ปลดล็อกจริง ยังทำธุรกิจสุราไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ การแก้กฎกระทรวงนั้น แก้เมื่อไรก็ได้และแก้คืนเมื่อไรก็ได้เช่นกัน หากถอดบทเรียนสมัยไทยรักไทยที่เคยทำนโยบายสุราเสรี เมื่อถูกรัฐประหารสุราเสรีก็หายไป
“เรามีพืชผลมากมายที่พร้อมผลิตสุรา สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างซอฟต์เพาเวอร์ต่อโลก และนำเงินกลับเข้ามาให้พี่น้องได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าอย่างไร พรรคเพื่อไทย จะผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ หากวันนี้ไม่ผ่าน สุราเสรีไม่เกิดขึ้น แต่สมัยหน้ารัฐบาลเพื่อไทยต้องผ่าน” อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ระบุ
เรื่อง “สุราพื้นบ้าน-สุราก้าวหน้า-สุราเสรี” ได้กลายเป็น “นโยบายหาเสียง” ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 นี้ ไปแล้ว เพราะทั้ง พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย ประกาศแล้วว่าจะผลักดันเรื่องนี้ต่อ และจะนำไปใช้หาเสียงด้วย...
++++++
ประโยชน์ 9 ประการ
รัฐปลดล็อกผลิตสุราเสรี
ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศกฎกระทรวงการคลังว่าด้วยการผลิตสุรา พ.ศ.2565 หลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2565 และมีผลบังคับใช้ 2 พ.ย.2565 โดยกฎกระทรวงดังกล่าว ทีมโฆษกรัฐบาลออกมาระบุว่า มีประโยชน์กับประชาชน 9 ประการ ดังนี้
1. กฎกระทรวงบังคับใช้ได้ทันเหตุการณ์ ทันที เหมาะกับบริบทของธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตสุราที่เปลี่ยนไป
2. สอดคล้องกับสภาพการณ์ในเชิงธุรกิจและการขออนุญาตจะทำได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้มากขึ้น เกิดความเท่าเทียมในการเข้าสู่ตลาด ไม่กีดกันทางการค้า
4. สุราได้คุณภาพมาตรฐานและเกิดการแข่งขันด้านกลไกตลาดที่เป็นธรรม
5. คุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคให้ปลอดภัยได้มากกว่า
6. ดูแลสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต ด้วยมีกฎหมายควบคุมไว้แล้ว
7. รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมอาชีพให้ชุมชน
8. จัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เพิ่มรายได้เข้ารัฐที่จะส่งต่อให้สังคม
9. อุดช่องโหว่เรื่องไม่ควบคุมการผลิตสุรา ที่มิใช่เพื่อการค้า