รัฐบาลเพื่อไทย ขาดพรรค “2 ลุง” ไม่ได้

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,907 ระหว่างวันที่ 23-26 ก.ค.2566 โดย...กาแฟขม  
      
...SvS... เมื่อ 19 ก.ค. 2566 รัฐสภาถกเถียงกันสามารถเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 หรือ เป็นญัตติซํ้าซ้อนต้องตกไปในสมัยประชุมนี้ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ของ พิธา ในประเด็นการถือหุ้นสื่อ ก่อนศาลมีคำวินิจฉัยภายในระยะเวลา 3-4 เดือน  

และในที่สุดรัฐสภาลงมติด้วยเสียงข้างมาก 395 ต่อ 312 และงดออกเสียง 8 ไม่สามารถเสนอชื่อ พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกในสมัยประชุมนี้ เพราะเป็นการเสนอชื่อ หรือ ญัตติซํ้าซ้อน นั่นทำให้ปิดฉากนายกฯ พิธา ลงอย่างเป็นทางการ พรรคก้าวไกลได้รับเลือกตั้งมีที่นั่ง 151 ในสภาผู้แทนราษฎร มีประชาชนเทคะแนนให้ 14 ล้านเสียง รวบรวม 8 พรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ 312 เสียง แต่กลับแพ้พ่ายไปไม่ถึงฝั่งฝัน ให้กับ ส.ว. ที่แต่งตั้งมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ ให้ส.ว.แต่งตั้ง 250 คน เลือกนายกรัฐมนตรีด้วย 

...SvS...อย่างไรก็ดี แม้ส.ว.จะโหวตอย่างไร แต่พฤติกรรมกองเชียร์พรรรคก้าวไกลที่เรียกกันว่า “ด้อมส้ม” ทั้งหลายที่ใช้วิธีการขุดเจาะไล่ล่าเอากับพวกที่เห็นต่างนั้นไม่น่ากระทำอย่างยิ่ง หรือแม้กระทั่งการกระทำกับคนที่เห็นต่างอย่างกรณี แสนปิติ หรือ แสนดี สิทธิพันธุ์ ที่ไป bully เขา หลังออกมาให้ความเห็นที่ไม่ตรงกับใจตัวเอง อันนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่มีเหตุผล และน่าละอาย ระดับนำของ พรรคก้าวไกล ต้องกำราบกองเชียร์ลงหน่อย เสรีเกินขอบเขตไป เขาวิจารณ์ เขาเห็นต่างอย่างไร แรงแค่ไหน ก็ตอบโต้ด้วยเหตุผล จะเหมาะสมกว่าใช้วิธีการ bully เขา  
     
...SvS... สถานการณ์ตรงหน้ามาถึงเพื่อไทยพรรคอันดับ 2 เตรียมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่ แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพื่อไทยพูดชัด เสนอ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่การจัดตั้งรัฐบาลอาจเปลี่ยนรูป จาก 8 พรรคการเมือง เพิ่มเติมพรรคการเมืองอื่นเข้ามา 

เศรษฐา คราวแรกแข็งขันไม่มีพรรคที่ลุงๆ เกี่ยวข้องจึงจะรับ แต่พักหลังท่าทีอ่อนลง ประเด็นอยู่ตรง ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ใครจะบอกเลิกกันก่อน ถ้ายังสูตรเดิมเปลี่ยนเป็นแคนดิเดต เศรษฐา มี ก้าวไกล ก็น่าจะยังไม่ผ่าน จากกลุ่ม ส.ว.ที่ต้องการอีก 65 เสียง หมายถึงต้องไปโหวตครั้งที่ 4 ภายใต้โครงสร้างรัฐบาลใหม่มีชื่อ อุ๊งอิ๊ง เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน นั่นจึงจะได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 กระมัง  
     
...SvS...ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ช้า จัดตั้งรัฐบาลช้า ภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศโวยกันยกใหญ่ กระทบเศรษฐกิจแน่ แต่ที่ไม่กลัวกระทบต้องคนนี้ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บอกเศรษฐกิจปี 2566 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ยังมีศักยภาพ คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ในระดับ 3-4% ส่วนความไม่แน่นอนเรื่องรัฐบาล ว่าใครจะมา หรือ มาเมื่อไหร่ มองว่าจะไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ให้เปลี่ยนแปลงไปมาก  

ธปท. ได้รวมสมมติฐานไปหมด ทั้งเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล คาดการจัดทำพ.ร.บ.งบประมาณปี 67 จะล่าช้าไป 1 ไตรมาส แต่ข้อเท็จจริง กระบวนการยังเป็นไปตามปกติ งบประจำยังเบิกจ่ายใช้ โดยไตรมาส 4/66-ไตรมาส 1/67 ที่หายไปจริงๆ คือ งบลงทุน แต่ก็ไม่ได้มีสัดส่วนมาก คงไม่กระทบปีนี้ แต่จะไปกระทบปี 2567 ก็การตั้งรัฐบาลใช่ว่าไม่กระทบเสียทีเดียว ที่ไม่กระทบเป็นปีนี้ แต่ปีหน้ากระทบบ้าง  
     
...SvS...เรื่องนี้ทำช้าไม่ได้ ต้องเร่งมือ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ดูแลคนและโลกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้กลายมาเป็นวาระเร่งด่วนของมนุษยชาติ ทำให้ระบบนิเวศที่สำคัญตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่ง TUF มองความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจซึ่ง SeaChange® เปรียบเสมือนใบอนุญาตที่จะทำให้บริษัทดำเนินธุรกิจได้ในโลกปัจจุบัน โดยเชื่อว่าการดูแลทรัพยากรด้วยความรับผิดชอบเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเป็นแหล่งอาหารและอาชีพให้กับประชากรโลกในรุ่นต่อไป ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทในการที่จะก้าวไปเป็นบริษัทอาหารทะเลที่ผู้คน

ทั่วโลกเชื่อถือมากที่สุด SeaChange® 2030 จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้บริษัทบรรลุวิสัยทัศน์นี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นและความเปลี่ยนแปลง ที่จะช่วยกันผลักดันนับจากนี้ จะเกิดประโยชน์ไม่เพียงแต่กับบริษัทเท่านั้น แต่คือความยั่งยืนกับทุกคน