รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. นัดประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น.
รายงานข่าวระบุด้วยว่า สำหรับวาระการประชุมจะมีการพิจารณา “มาตรการล็อกดาวน์” ห้ามออกนอกเคหะสถานในยามวิกาล หรือ เคอร์ฟิว ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน ปิดสถานที่เสี่ยง และอื่นๆ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด
ซึ่งมีการต่อมาตรการและบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาและกำลังจะครบ 14 วันของมาตรการต่างๆ ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้
"ดังนั้นการประชุมดังกล่าว จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะผ่อนคลายมาตรการ หรือ ขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์ ออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดยังรุนแรง มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก" แหล่งข่าวระบุ
วันที่ 13 สิงหาคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า การควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถึงวันที่ 7 ก.ย.64 โดยเชื่อว่าหากไม่มีการล็อกดาวน์จะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงถึง 6-7 หมื่นราย รวมไปถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน
ขณะที่ตัวเลขปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่า 2 หมื่นราย ถือเป็นระดับใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้กรณีที่มีมาตรการล็อกดาวน์และมีประสิทธิภาพราว 20% และตัวเลขก็ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก แต่หากสามารถเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการล็อกดาวน์ให้มีประสิทธิภาพราว 25% และเร่งฉีดวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงให้เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องก็จะช่วยกดตัวเลขเหล่านี้ลงมาได้