เอริส มาร์เก็ตติ้ง ชี้กระแสลิปสติก"ฟอร์ ยู ทู"กระแสตอบรับล้นหลาม เร่งเปิดเกมกระทุ้งตลาดรับเทรนด์เมกอักต่อเนื่อง จ่อส่งแบรดน์ใหม่รุกตลาดปี 2561 พร้อมวางเป้าโต 100% ช่วง 2 ปีซ้อน ก่อนสยายปีกรุกต่างประเทศและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
นางสาวแมรี่ อมรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอริส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของเครื่องสำอางค์ภายใต้แบรน์ ฟอร์ ยู ทู เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทมีแผนพัฒนาสินค้าแบรนด์ใหม่ในกลุ่มลิปสติกเข้ามาทำตลาดในปี 2561 ในการเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนที่มีระดับราคาตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดเมกอัพเมืองไทยที่มีแนวโน้มแข่งขันรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จากกระแสการแต่งหน้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ควบคู่กับการเป็นบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และขยายตลาดไปยังต่างประเทศอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าเข้าไปทำตลาดแล้วในประเทศกัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เป็นต้น แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก เนื่องจากบริษัทยังไม่มีการเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจัง เนื่องจากต้องการโฟกัสการทำตลาดในประเทศไทยให้แข็งแกร่งมียอดขายตามเป้าหมายที่กำหนดเสียก่อน
"มองว่าตลาดเมกอัพยังมีโอกาสและช่องว่างทางการเติบโตอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดล่าง และตลาดระดับบน ที่บริษัทยังไม่มีสินค้าเข้าไปทำตลาด โดยปัจจุบันกลุ่มลิปสติกและสินค้าเครื่องสำอางของบริษัทเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคระดับกลางเป็นหลัก ขณะที่ในส่วนของตลาดต่างประเทศสาเหตุที่ยังไม่มีการรุกตลาดอย่างจริงจัง เนื่องจากเรามองว่าต้องการโฟกัสความแข็งแกร่งและยอดขายภายใปนระเทศให้ดีเสียก่อน โดยวางเป้าหมายสร้างการเติบโตในปีหน้า 100% เทียบเท่ากับเป้าหมายในปีนี้เสียก่อนจึงจะมีการรุกตลาดอย่างจริงจัง เนื่องจากแบรนด์มีความแข็งแกร่งมากพอแล้ว"
เบื้องต้นสำหรับแผนงานในปีหน้า ถือเป็นช่วงสำคัญของการสร้างแบรนด์สินค้าในเครือของบริษัทให้แข็งแกร่งผ่านการทำตลาดรูปแบบต่างๆ โดยแบ่งการทำตลาดตามแต่ละไตรมาส ได้แก่ ช่วงไตรมาส 1 และ 2 จะเป็นการทำตลาดต่อเนื่องจากปีนี้ของสินค้าในกลุ่มลิปสติก ฟอร์ ยู ทู คิส มี ฮาร์ดเดอร์ ผ่านบล็อกเกอร์ด้านความงามแถวหน้าของเมืองไทยทั้ง 9 ราย ด้วยการคิดค้นลิปสติกสีพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับบล็อกเกอร์แต่ละคน และเตรียมวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า ขณะที่ไตรมาส 3 จะเป็นการทำตลาดสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์แป้ง ส่วนในไตรมาส 4 เบื้องต้นบริษัทยังไม่มีการเตรียมแผนการตลาดไว้ เนื่องจากถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดจึงจำเป็นต้องมีการศึกษาความต้องการและเทรนด์ความงามในขณะนั้นเสียก่อน
ทั้งนี้บริษัทมีแผนการจัดทำชุดกิฟต์เซตด้วยการรวมเอาสินค้าในบริษัท ทั้งกลุ่มเมกอัพ แป้ง และบรัชออน มาทำเป็นชุดของขวัญในช่วงเทศกาล เพื่อรองรับความต้องการในช่วงเทศกาล โดยมีแผนจะเริ่มในช่วงปีหน้า จากช่วงแรกที่บริษัทมีได้เตรียมเซตชุดลิปสติกฟอร์ ยู ทู คิส มี ฮาร์ดเดอร์ ไว้รองรับตลาดในช่วงปลายปีนี้ แต่สินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการและจำหน่ายหมดก่อนช่วงปีใหม่ทำให้ต้องเร่งสั่งสินค้าเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมกว่า 1 แสนชิ้น หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัว ลิปสติก ฟอร์ ยู ทู คิส มี ฮาร์ดเดอร์ เข้ามาทำตลาดตลาดจำนวน 2 แสนแท่งหรือคิดเป็นมูลค่า 40 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4ที่ผ่านมา ซึ่งจากกระแสตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้บริษัทเดินหน้าจัดกิจกรรมสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายระดับซีบวกไปจนถึงระดับบี ที่มีอายุตั้งแต่ 19-32 ปี
อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมยอดขายช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของบริษัท พบว่ามีอัตราการเติบโต 100% จากปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายหลักมาจากกลุ่มลิปสติก 50% กลุ่มบรัชออน 20% และอื่นๆ อาทิกลุ่มแป้ง 30% โดยวางเป้าหมายยอดขายในสิ้นปีนี้เติบโตจากปีทีผ่านมา 100%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,210 วันที่ 17 - 19 พฤศจิกายน 2559