“กฤษฏา”ย้ำกฎเหล็ก"ไทยนิยม"งบ2.4 หมื่นล.สั่งจ่ายตรงอุดช่องทุจริต

26 มี.ค. 2561 | 09:21 น.
อัปเดตล่าสุด :26 มี.ค. 2561 | 16:21 น.
“กฤษฏา”ย้ำกฎเหล็ก "ไทยนิยม"งบ 2.4 หมื่นล้าน สั่งอุดช่องทุจริต สั่งจ่ายผ่านบัญชีเกษตรกรโดยตรง

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกรมปศุสัตว์และปศุสัตว์จังหวัดทั้ง 76 จังหวัด มาประชุมชี้แจงเรื่องการดำเนินงานตามโครงการงบประมาณรายจ่ายกลางปีเพิ่มเติมปี 2561 ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯว่า ในส่วนของกรมปศุสัตว์ได้รับงบประมาณกลางปีเพิ่มเติมปี 2561 เพื่อขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืน จากวงเงินงบประมาณรวมของกระทรวงเกษตรฯ 24,000 ล้านบาท เป็นโครงการที่กรมปศุสัตว์ดำเนินการ 3 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 671 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการเพิ่มทักษะอาชีพแก่เกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 12 ล้านบาท 2.โครงการศูนย์ขยายพันธุ์และส่งเสริมการผลิตปศุสัตว์ 140 ล้านบาท 3.โครงการสร้างทักษะและส่งเสริมด้านการเกษตร 518 ล้านบาท ในจำนวน 671 ล้านบาท
kidbud "สิ่งที่มาเน้นย้ำ คือ การลงไปขับเคลื่อนตามแผนงานโครงการในพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด ทุกขั้นตอนให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นการแจกพันธุ์สัตว์หรือการนำชาวบ้านมาอบรมวิธีการเลี้ยง และวิธีการทำการปศุสัตว์ ให้ประสานงานกับนายอำเภอ จากนั้นคัดเลือกเกษตรกรที่มีความพร้อมตามมติของที่ประชุมประชาคมของตำบลหมู่บ้านนั้นๆ แล้ว ให้นำโครงการที่ได้รับในครั้งนี้แจ้งในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดด้วย"

ส่วนโครงการบางส่วนเป็นการนำชาวบ้านมาอบรมแล้วก็จ่ายค่าอบรมให้วันละ 300 บาทนั้น ถ้าเป็นค่าอบรมเกิน 500 บาท ให้ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือออมสินเท่านั้น แต่ถ้าต่ำกว่า 500 บาท สามารถจ่ายเป็นเงินสดได้โดยให้มีชาวบ้านด้วยกันมาเป็นพยานในการเซ็นรับเงิน หรือ บางโครงการ เช่น เวลาไปซื้อพันธุ์เป็ด ไก่ โค และแพะ มาแจก ต้องมีกรรมการตรวจรับพัสดุหรือครุภัณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วยการพัสดุ และให้เพิ่มเติมกรรมการตรวจรับต้องเป็นข้าราชการอย่างน้อยจำนวน 3 คน และเพิ่มชาวบ้านอีกจำนวน 2 คน
โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6 อย่างไรก็ตามโครงการทุกโครงการในงบกลางปี 2561 ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ให้ ปลัดกระทรวงเกษตรฯทำหนังสือเรียนไปถึงเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งรายละเอียดโครงการทั้ง 2.4 หมื่นล้านบาทให้หน่วยตรวจสอบอิสระทราบ เพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมกับกระทรวง มากำกับดูแลตั้งแต่เริ่มดำเนินการ เพื่อหากเกิดปัญหาหรือมีร่องรอยการทุจริตจะได้ตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ และในส่วนที่ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ทั้ง 2 คน ติดตามภาพรวม โดยมีรองปลัดฯ ทั้ง 4 คนเป็นเลขานุการคณะติดตามงานด้วย

e-book