Play
Big Bad Wolf ก้าวข้าม ‘ผลกำไร’ สู่การ ‘ให้’ สังคมอย่างแท้จริง
"ผมเชื่อว่า ‘หนังสือ’ นอกจากมีคุณสมบัติหลักในการเป็นแหล่งความรู้แล้ว ‘หนังสือ’ ยังถือเป็นทูตสัมพันธไมตรีอย่างหนึ่งในการสร้างมิตรไมตรีตั้งแต่ก้าวแรก วินาทีแรกที่คนได้พบกัน เพราะ ‘หนังสือ’ ทำให้เราเปิดใจที่จะเรียนรู้และเจาะไปถึงความสนใจของผู้รับได้อย่างแม่นยำ เป็นใบเบิกทางชั้นดีที่ทำให้โลกของผู้ให้เชื่อมต่อกับโลกของผู้รับได้อย่างแนบเนียนและเป็นของขวัญที่ดีที่สุด”
คำพูดที่มาพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุขกับแววตาที่เต็มไปด้วยความสนุกของ คุณก้อง-คุณสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ กรรมการผู้จัดการ เครือโรงแรมเอทัสแอนด์เรสซิเดนซ์ และผู้อำนวยการบริษัท Ready2Read เมื่อพูดถึงการค้นพบแก่นที่แท้จริงของงานมหกรรมหนังสือที่ได้รับการกล่าวขานถึงความยิ่งใหญ่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาอย่าง “Big Bad Wolf”
“จากงานอดิเรกสู่การค้นพบธุรกิจใหม่ที่นำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่มาสู่สังคมการอ่านของเมืองไทย” เส้นทางชีวิตของนักธุรกิจที่ผ่านงานด้านสื่อสารองค์กรและงานด้านกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มลูกค้ากับสังคมในสถาบันการเงินชั้นนำของโลก ก่อนผันตัวมาดำเนินธุรกิจด้านการบริการประเภทโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์บนทำเลที่มีศักยภาพอันดับต้นๆ ของกรุงเทพมหานคร ภายใต้แบรนด์ “เอทัส” รูปแบบของชีวิตที่รู้จักและหลงใหลการอ่านจากภาพลายเส้นและสีสันแปลกตาของหนังสือการ์ตูนตั้งแต่วัยเยาว์ ความชื่นชอบนำทางให้คุณก้องมีหนังสือการ์ตูนในคลังส่วนตัวหลายพันเล่ม แต่เส้นทางธุรกิจที่ดำเนินอยู่กลับเข้ามาสอดคล้องและผูกพันกับธุรกิจหนังสือได้เพราะงานอดิเรกของเขาคือการขับรถคลาสสิกยี่ห้อดังอย่าง “ปอร์เช่” ลัดเลาะไปตามชายฝั่งทะเลและแนวเขา เพื่อดื่มด่ำกับทัศนียภาพพร้อมๆ กับการได้สัมผัสลูกเล่นของยานยนต์ที่เขาโปรดปราน
เมื่อ 3 ปีก่อนการเดินทางจากหาดใหญ่สู่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก็ทำให้คุณก้องได้พบกับ Mr.Andrew Yap ผู้ก่อตั้งงาน Big Bad Wolf ชาวมาเลเซีย วันนั้นคือวันที่ชื่อของ “Big Bad Wolf” ปรากฏสู่สายตาของคุณก้องเป็นครั้งแรก และแทบจะทันทีที่สายตาของคุณก้องสะดุดลงที่ราคาใต้โลโกเจ้าหมาป่าบนหนังสือปกแข็งสวยงาม หนังสือที่ Mr.Andrew ตั้งใจนำมามอบให้เป็นของขวัญ การพูดคุยเจาะลึกเรื่องราวธุรกิจหนังสือ บันทึกหน้าใหม่ของการสร้างพลังส่งเสริมสังคมการอ่านเพื่อคนอาเซียนจึงเริ่มต้นขึ้น
“Mr.Andrew บอกกับผมว่า สำหรับมนุษย์เงินเดือนในกลุ่มประเทศอาเซียน หนังสือภาษาอังกฤษดีๆ มีราคาแพงมาก เพราะราคาที่ต้องซื้อคือราคายุโรป ราคาอเมริกัน การมองเห็นส่วนที่ขาดในวัยเด็กกับการเข้าไม่ถึงหนังสือดีๆ เหล่านี้ ทำให้เขากล้าที่จะลุกขึ้นมาฟันฝ่าอุปสรรค ออกเดินทางตามหาหนังสือดีๆ จากทั่วโลก เปิดเจรจากับสำนักพิมพ์ชั้นนำระดับโลกด้วยตนเอง และเริ่มทำธุรกิจที่เป็นส่วนผลักดันให้สังคมก้าวข้ามกับดักทางรายได้ระดับกลาง (Middle Income Trap) ในสังคม แม้จะไม่สามารถคาดเดาผลสำเร็จและผลกำไรได้แน่นอน แต่ความเชื่อที่ว่า ความก้าวหน้าทางอาชีพซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบมหภาคต้องเริ่มต้นที่ “ความรู้” และต้นทางของความรู้ที่ดีที่สุดคือ “การอ่าน” งานมหกรรมหนังสือที่นำหนังสือมากกว่า 20,000 ปก มากกว่า 2-3 ล้านเล่ม มาให้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้สัมผัสจึงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการใน 10 ปีที่ผ่านมา”
เพราะความโดดเด่นของ Big Bad Wolf คือการตั้งราคาหนังสือขึ้นใหม่ ราคาที่ลดจากราคาปกมากกว่า 60% ขึ้นไป ราคาที่กำหนดขึ้นจากความหวังดีเพื่อ “ให้” สิ่งดีๆ สู่สังคมมากกว่าการตั้งราคาเพื่อคำว่า “ผลกำไร” ปรากฏการณ์ความสนุกผ่านภาพที่คุณก้องได้เห็นจากการลงพื้นที่สัมผัสงาน Big Bad Wolf ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ด้วยตนเอง ภาพที่ผู้ปกครองจูงลูก จูงหลาน พากันเข็นตะกร้ามาเลือกซื้อหนังสืออย่างมีความสุข ปราศจากตัวกรองดักความต้องการที่เรียกว่า “ราคา” ทำให้พวกเขาสามารถตัดสินใจซื้อได้ตั้งแต่หน้าปก คือประสบการณ์ใหม่ที่คุณก้องไม่เคยสัมผัสมาก่อน คุณก้องจึงไม่รีรอที่จะนำประสบการณ์อันแสนพิเศษนี้มามอบให้กับคนไทยในทันที ต้นทางจากงานอดิเรก ความสอดคล้องของรสนิยมและการเข้าถึงเจตจำนงอันแท้จริงของธุรกิจหนังสือของ 2 ผู้บริหารจาก 2 ประเทศ ทำให้ “ประเทศไทย” ถือเป็นประเทศแรก ที่ Big Bad Wolf ก้าวสู่การเป็นงานมหกรรมหนังสือระดับนานาชาติประกาศศักดาการเป็นงานจำหน่ายหนังสือคุณภาพเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณภาพให้กับสังคมอย่างยั่งยืน
“การตั้งชื่อบริษัทที่เข้ามารองรับธุรกิจหนังสือว่า ‘Ready 2 Read’ มาจากความเชื่อของผมที่ว่าแท้จริงแล้วคนไทยมีความพร้อม มีความต้องการ และอยากอ่านหนังสือที่ดี รสนิยมของคนไทยคือชื่นชอบหนังสือที่มีการออกแบบเนื้อหาภายในผ่านภาพ ผ่านรูปแบบกราฟิกต่างๆ ที่สวยงาม ที่สำคัญคือหากเป็นหนังสือที่รู้สึกว่าแพงกว่าเงินที่ต้องจ่าย การตัดสินใจซื้อจะเกิดขึ้นในทันที และการปลดล็อกเรื่องราคาคือที่สิ่งที่ Big Bad Wolf สร้างขึ้นให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม”
ความสอดคล้องของจังหวะ เวลา และโอกาสในยุคที่คนไทยเริ่มเห็นคุณและโทษของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนช่องว่างการเติบโต (Room for Growth) เรื่องการศึกษาภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่ 2 ของคนไทยยังมีอีกมาก ทำให้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คนไทยมาตามหาหนังสือที่เจ้าหมาป่าออกไปตะลุยค้นหามาทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 1 แสนคน จนทะลุ 2 แสนคนในปีที่ผ่านมา หนังสือที่มีครบทุกหมวดแม้ไม่ใช่ตำราเรียนแต่ทำหน้าที่ประหนึ่งประตูเชื่อมโอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพและช่องทางสร้างอาชีพใหม่ซึ่งสุดท้ายแล้วผลของการเริ่มลงมือทำได้ย้อนกลับมาสู่รากฐานความแข็งแกร่งในธุรกิจบริการซึ่งความสามารถด้านภาษา คือใบเบิกทางชั้นดีที่ทำให้คนไทยเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ
“การตัดสินใจใช้จ่ายของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน หลายคนตัดสินใจซื้อกระเป๋า รองเท้า ไวกว่าการตัดสินใจซื้อหนังสือสักเล่ม สำหรับบางคนการซื้อองค์ประกอบภายนอกเหล่านั้นคือการซื้อให้คนอื่นดู แต่การซื้อหนังสือคือการซื้อให้กับตัวเอง หนังสือคือเครื่องมือเปลี่ยนคนได้ดีที่สุดตั้งแต่ภาพลักษณ์ภายนอก ไปจนถึงความคิดและสติปัญญาที่อยู่ภายใน เพราะฉะนั้นการสร้าง ‘คุณค่า’ ให้กับตัวเองไม่ได้ใช้เงินลงทุนมากมาย เพียงแค่เลือกหนังสือมาอ่านสักเล่ม ค้นพบตัวเองจากข้างในและพัฒนาให้ดียิ่งกว่าเดิม”
พบกับงานหนังสือในแบบของ Big Bad Wolf งานหนังสือที่สะท้อนตัวตนของนักบริหารที่ชื่อ “สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้-20 สิงหาคม 2561 งานขายหนังสือระดับโลกที่สนุกที่สุดในเมืองไทย พร้อมเปิดรอให้คุณได้เข้าไปสัมผัสตลอด 24 ชั่วโมง ที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 9 เมืองทองธานี
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,391 (852) วันที่ 12 - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561
คำพูดที่มาพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุขกับแววตาที่เต็มไปด้วยความสนุกของ คุณก้อง-คุณสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ กรรมการผู้จัดการ เครือโรงแรมเอทัสแอนด์เรสซิเดนซ์ และผู้อำนวยการบริษัท Ready2Read เมื่อพูดถึงการค้นพบแก่นที่แท้จริงของงานมหกรรมหนังสือที่ได้รับการกล่าวขานถึงความยิ่งใหญ่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาอย่าง “Big Bad Wolf”
“จากงานอดิเรกสู่การค้นพบธุรกิจใหม่ที่นำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่มาสู่สังคมการอ่านของเมืองไทย” เส้นทางชีวิตของนักธุรกิจที่ผ่านงานด้านสื่อสารองค์กรและงานด้านกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มลูกค้ากับสังคมในสถาบันการเงินชั้นนำของโลก ก่อนผันตัวมาดำเนินธุรกิจด้านการบริการประเภทโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์บนทำเลที่มีศักยภาพอันดับต้นๆ ของกรุงเทพมหานคร ภายใต้แบรนด์ “เอทัส” รูปแบบของชีวิตที่รู้จักและหลงใหลการอ่านจากภาพลายเส้นและสีสันแปลกตาของหนังสือการ์ตูนตั้งแต่วัยเยาว์ ความชื่นชอบนำทางให้คุณก้องมีหนังสือการ์ตูนในคลังส่วนตัวหลายพันเล่ม แต่เส้นทางธุรกิจที่ดำเนินอยู่กลับเข้ามาสอดคล้องและผูกพันกับธุรกิจหนังสือได้เพราะงานอดิเรกของเขาคือการขับรถคลาสสิกยี่ห้อดังอย่าง “ปอร์เช่” ลัดเลาะไปตามชายฝั่งทะเลและแนวเขา เพื่อดื่มด่ำกับทัศนียภาพพร้อมๆ กับการได้สัมผัสลูกเล่นของยานยนต์ที่เขาโปรดปราน
เมื่อ 3 ปีก่อนการเดินทางจากหาดใหญ่สู่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก็ทำให้คุณก้องได้พบกับ Mr.Andrew Yap ผู้ก่อตั้งงาน Big Bad Wolf ชาวมาเลเซีย วันนั้นคือวันที่ชื่อของ “Big Bad Wolf” ปรากฏสู่สายตาของคุณก้องเป็นครั้งแรก และแทบจะทันทีที่สายตาของคุณก้องสะดุดลงที่ราคาใต้โลโกเจ้าหมาป่าบนหนังสือปกแข็งสวยงาม หนังสือที่ Mr.Andrew ตั้งใจนำมามอบให้เป็นของขวัญ การพูดคุยเจาะลึกเรื่องราวธุรกิจหนังสือ บันทึกหน้าใหม่ของการสร้างพลังส่งเสริมสังคมการอ่านเพื่อคนอาเซียนจึงเริ่มต้นขึ้น
“Mr.Andrew บอกกับผมว่า สำหรับมนุษย์เงินเดือนในกลุ่มประเทศอาเซียน หนังสือภาษาอังกฤษดีๆ มีราคาแพงมาก เพราะราคาที่ต้องซื้อคือราคายุโรป ราคาอเมริกัน การมองเห็นส่วนที่ขาดในวัยเด็กกับการเข้าไม่ถึงหนังสือดีๆ เหล่านี้ ทำให้เขากล้าที่จะลุกขึ้นมาฟันฝ่าอุปสรรค ออกเดินทางตามหาหนังสือดีๆ จากทั่วโลก เปิดเจรจากับสำนักพิมพ์ชั้นนำระดับโลกด้วยตนเอง และเริ่มทำธุรกิจที่เป็นส่วนผลักดันให้สังคมก้าวข้ามกับดักทางรายได้ระดับกลาง (Middle Income Trap) ในสังคม แม้จะไม่สามารถคาดเดาผลสำเร็จและผลกำไรได้แน่นอน แต่ความเชื่อที่ว่า ความก้าวหน้าทางอาชีพซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบมหภาคต้องเริ่มต้นที่ “ความรู้” และต้นทางของความรู้ที่ดีที่สุดคือ “การอ่าน” งานมหกรรมหนังสือที่นำหนังสือมากกว่า 20,000 ปก มากกว่า 2-3 ล้านเล่ม มาให้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้สัมผัสจึงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการใน 10 ปีที่ผ่านมา”
เพราะความโดดเด่นของ Big Bad Wolf คือการตั้งราคาหนังสือขึ้นใหม่ ราคาที่ลดจากราคาปกมากกว่า 60% ขึ้นไป ราคาที่กำหนดขึ้นจากความหวังดีเพื่อ “ให้” สิ่งดีๆ สู่สังคมมากกว่าการตั้งราคาเพื่อคำว่า “ผลกำไร” ปรากฏการณ์ความสนุกผ่านภาพที่คุณก้องได้เห็นจากการลงพื้นที่สัมผัสงาน Big Bad Wolf ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ด้วยตนเอง ภาพที่ผู้ปกครองจูงลูก จูงหลาน พากันเข็นตะกร้ามาเลือกซื้อหนังสืออย่างมีความสุข ปราศจากตัวกรองดักความต้องการที่เรียกว่า “ราคา” ทำให้พวกเขาสามารถตัดสินใจซื้อได้ตั้งแต่หน้าปก คือประสบการณ์ใหม่ที่คุณก้องไม่เคยสัมผัสมาก่อน คุณก้องจึงไม่รีรอที่จะนำประสบการณ์อันแสนพิเศษนี้มามอบให้กับคนไทยในทันที ต้นทางจากงานอดิเรก ความสอดคล้องของรสนิยมและการเข้าถึงเจตจำนงอันแท้จริงของธุรกิจหนังสือของ 2 ผู้บริหารจาก 2 ประเทศ ทำให้ “ประเทศไทย” ถือเป็นประเทศแรก ที่ Big Bad Wolf ก้าวสู่การเป็นงานมหกรรมหนังสือระดับนานาชาติประกาศศักดาการเป็นงานจำหน่ายหนังสือคุณภาพเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณภาพให้กับสังคมอย่างยั่งยืน
“การตั้งชื่อบริษัทที่เข้ามารองรับธุรกิจหนังสือว่า ‘Ready 2 Read’ มาจากความเชื่อของผมที่ว่าแท้จริงแล้วคนไทยมีความพร้อม มีความต้องการ และอยากอ่านหนังสือที่ดี รสนิยมของคนไทยคือชื่นชอบหนังสือที่มีการออกแบบเนื้อหาภายในผ่านภาพ ผ่านรูปแบบกราฟิกต่างๆ ที่สวยงาม ที่สำคัญคือหากเป็นหนังสือที่รู้สึกว่าแพงกว่าเงินที่ต้องจ่าย การตัดสินใจซื้อจะเกิดขึ้นในทันที และการปลดล็อกเรื่องราคาคือที่สิ่งที่ Big Bad Wolf สร้างขึ้นให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม”
ความสอดคล้องของจังหวะ เวลา และโอกาสในยุคที่คนไทยเริ่มเห็นคุณและโทษของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนช่องว่างการเติบโต (Room for Growth) เรื่องการศึกษาภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่ 2 ของคนไทยยังมีอีกมาก ทำให้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คนไทยมาตามหาหนังสือที่เจ้าหมาป่าออกไปตะลุยค้นหามาทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 1 แสนคน จนทะลุ 2 แสนคนในปีที่ผ่านมา หนังสือที่มีครบทุกหมวดแม้ไม่ใช่ตำราเรียนแต่ทำหน้าที่ประหนึ่งประตูเชื่อมโอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพและช่องทางสร้างอาชีพใหม่ซึ่งสุดท้ายแล้วผลของการเริ่มลงมือทำได้ย้อนกลับมาสู่รากฐานความแข็งแกร่งในธุรกิจบริการซึ่งความสามารถด้านภาษา คือใบเบิกทางชั้นดีที่ทำให้คนไทยเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ
“การตัดสินใจใช้จ่ายของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน หลายคนตัดสินใจซื้อกระเป๋า รองเท้า ไวกว่าการตัดสินใจซื้อหนังสือสักเล่ม สำหรับบางคนการซื้อองค์ประกอบภายนอกเหล่านั้นคือการซื้อให้คนอื่นดู แต่การซื้อหนังสือคือการซื้อให้กับตัวเอง หนังสือคือเครื่องมือเปลี่ยนคนได้ดีที่สุดตั้งแต่ภาพลักษณ์ภายนอก ไปจนถึงความคิดและสติปัญญาที่อยู่ภายใน เพราะฉะนั้นการสร้าง ‘คุณค่า’ ให้กับตัวเองไม่ได้ใช้เงินลงทุนมากมาย เพียงแค่เลือกหนังสือมาอ่านสักเล่ม ค้นพบตัวเองจากข้างในและพัฒนาให้ดียิ่งกว่าเดิม”
พบกับงานหนังสือในแบบของ Big Bad Wolf งานหนังสือที่สะท้อนตัวตนของนักบริหารที่ชื่อ “สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้-20 สิงหาคม 2561 งานขายหนังสือระดับโลกที่สนุกที่สุดในเมืองไทย พร้อมเปิดรอให้คุณได้เข้าไปสัมผัสตลอด 24 ชั่วโมง ที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 9 เมืองทองธานี
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,391 (852) วันที่ 12 - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561
