ชี้คนไทยเห่อออกกำลังกายเอาต์ดอร์แรงพุ่ง ปลุกธุรกิจฟิตเนสเร่งปรับตัว ขยายสาขารับ “เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ” ผุดสาขาใหญ่สุดในอาเซียน พร้อมเพิ่มกิจกรรมรูปแบบใหม่ ขณะที่ “เจ็ทส์ ฟิตเนส” ปูพรมเจาะใจกลางเมือง เน้นสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย
จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยพบว่า ปัจจุบันคนไทยนิยมออกกำลังกายมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกายแบบเอาต์ดอร์ และการออกกำลังกายในฟิตเนส โดยมีอัตราเฉลี่ย 9-10 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นการเข้าสังคม และออกกำลังกายบางครั้ง ขณะที่คนต่างชาติในแถบยุโรปจะเข้าฟิตเนสเฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น และพฤติกรรมของการออกกำลังกายของกลุ่มประเทศยุโรปจะมุ่งมั่นกับการออกกำลังกายจริงจัง ทำให้วันนี้ธุรกิจฟิตเนสในเมืองไทยได้รับความนิยม และมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
นายวุธรวี จารุวัฒนะ ผู้จัดการใหญ่ ประจำประเทศไทย บริษัท เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์การออกกำลังกายรูปแบบ Outdoor กำลังมาแรงในทั่วโลกและประเทศไทย อาทิ การวิ่งมาราธอน ปั่นจักรยาน อื่นๆ ดังนั้นเวอร์จิ้น แอ็คทีฟจึงนำเทรนด์ดังกล่าวมาประยุกต์กับรูปแบบธุรกิจฟิตเนส โดยล่าสุดสาขาใหม่ แห่งที่ 8 ซึ่งตั้งอยู่โครงการ 101 (วัน-โอ-วัน) เดอะเทิร์ดเพลส คอมเพล็กซ์ ซอยสุขุมวิท 101 เป็นการขยายสาขาที่ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้จะเปิดให้บริการทั้งในรูปแบบสมาชิกและผู้ใช้บริการทั่วไปวันที่1 เมษายนเป็นต้นไปและคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 1 ปีเช่นเดียวกับทุกสาขาที่สามารถคืนทุนได้ภายใน 1 ปี
สำหรับเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ สาขาที่ 8 มีจุดแข็งคือขนาดพื้นที่ใหญ่กว่า 7,000 ตร.ม. ประกอบด้วย 9 โซนออกกำลัง ได้แก่ สตูดิโอสำหรับโยคะ พิลาทิส มวย ฟังก์ชันนัลเทรนนิ่ง และปั่นจักรยาน รวมทั้งนวัตกรรมสนามกีฬาอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนไฟ LED บนพื้นให้กลายเป็นสนามกีฬาได้หลายประเภท พร้อมสระว่ายนํ้ากลางแจ้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก และไฮไลต์โปรแกรมออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย นอกจากนี้เวอร์จิ้น แอ็คทีฟยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี เช่น แอพพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ให้สมาชิกได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นจากการจองคลาส หรือการออกกำลังกายที่บ้าน
ด้านนายไมค์ แลมบ์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า การตื่นตัวของคนไทยที่หันมาออกกำลังกายมากขึ้นทำให้เจ็ทส์ เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยพบว่าตั้งแต่ต้นปี 2561 เจ็ทส์ ขยายสาขาต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และจะขยายสาขาอีก 3 แห่งในใจกลางเมืองได้แก่ บีทีเอส สีลม อโศก และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ภายใน 2 เดือนข้างหน้า และจะขยายเพิ่มอีก 4 แห่ง ได้แก่ พัทยา 2 แห่ง นครราชสีมา และกรุงเทพฯอีกอย่างละ 1 แห่ง
“ปัจจุบันเจ็ทส์ มีการขยายสาขาเฉลี่ย 1 แห่งต่อเดือนเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ และถือเป็นเครือข่ายฟิตเนส 24 ชั่วโมงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% โดยในสิ้นปีนี้เจ็ทส์จะมีสาขาครบ 24 แห่ง บนทำเลที่สะดวกสบายในกรุงเทพฯ และจังหวัดหัวเมือง และตั้งเป้าหมายที่จะเปิดสาขาใหม่ไม่น้อยกว่า 12 แห่งต่อปี และจะมีสาขาครบ 100 แห่งภายใน 5 ปี”
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดนับจากนี้จะเน้นการพัฒนาโปรแกรมการออกกำลังกายแบบกลุ่มใหม่ๆ ตลอดจนแพ็กเกจสมาชิกแบบไม่มีเงื่อนไขผูกมัด พร้อมสร้างช่องทางการสื่อสารบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Facebook และ Instagram เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง และเป็นสื่อกลางในการรับฟังความคิดเห็นและข้อติชมจากสมาชิกได้ทันทีแบบเรียลไทม์ เพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน โดยปัจจุบันเจ็ทส์มีสมาชิกกว่า 1.5 หมื่นคน
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3458 ระหว่างวันที่ 4 - 6 เมษายน 2562