ปลัดมหาดไทยย้ำไทยการช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบบนพื้นฐานมนุษยธรรม

25 มี.ค. 2559 | 08:14 น.
อัปเดตล่าสุด :25 มี.ค. 2559 | 14:17 น.
unnamed ปลัดกระทรวงมหาดไทย หารือผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ย้ำรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบบนพื้นฐานมนุษยธรรม

วันนี้ (25มี.ค.59) เวลา 10.00 น. ที่ห้องรับรองกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ Ms.Ruvendrini Menikdiwela ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNHCR) และคณะในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือในประเด็นของการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบที่เข้ามาอาศัย ณ พื้นที่พักพิงชั่วคราวในประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยถึงประเด็นการเตรียมการส่งผู้หนีภัยกลับมาตุภูมิ ซึ่งขณะนี้ทาง UNHCR จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณา รวมถึงการแก้ไขปัญหาบุคคล ไร้สัญชาติในประเทศไทย

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้หนีภัยจากการสู้รบที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จำนวนประมาณ 7 หมื่นคน (ข้อมูลณเดือนมกราคม 2559) ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว 9 แห่ง 4 จังหวัด คือ จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ตาก และแม่ฮ่องสอน โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองเป็นหน่วยงานของไทย ควบคุมดูแลในพื้นที่พักพิง โดยมีองค์กรภาคีต่างๆ ให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบทั้ง9 พื้นที่ตามหลักมนุษธรรม และได้มีการจัดทำทะเบียนและบัตรประจำตัวผู้หนีภัยเพื่อเป็นเอกสารแสดงตน รวมถึงการออกใบรับรองการเกิดให้กับเด็กทุกคนที่เกิดในพื้นที่พักพิงชั่วคราว เพื่อป้องกันปัญหา ผู้ไร้สัญชาติในกรณีที่เด็กเดินทางกลับประเทศต้นทาง และการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ เช่น การรักษาพยาบาล การสาธารณสุข การผดุงครรภ์ ระบบสุขาภิบาล การศึกษา และการฝึกอาชีพ เป็นต้น

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยได้เดินทางมาเยือนกระทรวงมหาดไทย ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้มีความร่วมมือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติหรือ UNHCR ในการแก้ไขปัญหาและดูแลผู้หนีภัยจากการสู้รบมาโดยตลอด ทั้งในระดับส่วนกลางและในระดับพื้นที่ ซึ่งในเรื่องนี้รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้บนพื้นฐาน ของมนุษยธรรม สำหรับการเตรียมส่งผู้หนีภัยกลับมาตุภูมิตามความสมัครใจ กระทรวงมหาดไทยในฐานะเป็นหน่วยงานดำเนินการพร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยยังได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหากาค้ามนุษย์ และการแก้ไขปัญหาบุคคลไร้สัญชาติ โดยได้เสนอขอผ่อนผันให้ผู้ที่เป็นเหยื่อหรือผู้เสียหาย รวมทั้งผู้ที่เป็นพยานในคดีค้ามนุษย์ สามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวและสามารถทำงานได้จนกว่าการพิจารณาคดี จะสิ้นสุดโดยจากเดิมจะเป็นเฉพาะผู้เสียหายที่ให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เท่านั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนและตรวจสอบหลักฐานต่างๆ จนสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอกฎหมาย

โอกาสนี้ Ms.Ruvendrini Menikdiwela ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวงมหาดไทยที่ได้แก้ไขปัญหาบุคคลไร้สัญชาติโดยเฉพาะปัญหานักเรียน นักศึกษาไร้สัญชาติในพื้นที่ชนบทห่างไกลให้ได้มีสัญชาติไทยอย่างถูกต้อง รวมถึงการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ซึ่งที่ผ่านมาได้ทราบถึงการดำเนินงานของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด ในการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยในประเด็นดังกล่าวจึงถือเป็นต้นแบบให้กับประเทศต่างๆ และยังชื่นชมในความตั้งใจของรัฐบาลไทยในการเจรจาในกรอบไตรภาคี (ประเทศไทย-UNHCR-ประเทศเมียนมา)

สุดท้าย ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้กล่าวขอบคุณในน้ำใจไมตรีของ UNHCR ที่ได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาและหวังว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อไป