คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

01 พ.ย. 2562 | 03:45 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2564 | 11:44 น.

“จุรินทร์” ลั่น ประกาศขายยางจีนล็อตใหญ่กลางเดือนนี้ คาดเจรจาจบ เล็งบุกตลาดอินเดีย ตุรกี เยอรมัน นำทัพ กยท.-นักธุรกิจ ขายตรงคาดออร์เดอร์กลับไทยเป๋าตุง ขณะที่ “เฉลิมชัย”ยันบัตรสีชมพูเอี่ยวร่วมโครงการชดเชยรายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เดินหน้าตามสัญญาภายใน 98 วัน

 

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผย KICK OFF เปิดโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 1 กล่าวว่า เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ที่มีการจ่ายชดเชยรายได้ประกันราคายางพารา เป็นพืชลำดับที่ 3 นับตั้งแต่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ทางรัฐบาลได้ดำเนินการภายใน 98 วัน ยืนยันว่าเป็นนโยบาย “ทำได้ไวทำได้จริง”

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

“นโยบายนี้ไม่ใช่นโยบายประกันราคา เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร จำนวนกว่า 1.7 ล้านราย ไม่ขัดองค์การค้าโลก  ในเร็วๆ นี้ ประมาณกลางเดือน พ.ย.นี้ รัฐบาลไทยเตรียมขายยางพาราให้กับจีนล็อตใหญ่สูงสุดที่เคยมีมาจะแถลงข่าวให้ทราบเมื่อได้เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วจะช่วยทำให้ราคายางในประเทศดีขึ้น ควบคู่กับมาตรการการใช้ยางในประเทศหน่วยงานรัฐต่างๆ ที่มีกว่า 1 แสนตัน และจะพา กยท.และนักธุรกิจไปขายยางที่อินเดีย ตุรกี และเยอรมัน คาดว่าจะมีออร์เดอร์กลับมาเท่าไรจะแถลงข่าวแน่นอนว่าขายได้เท่าไร”

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

ที่ผ่านมาก่อนมีรัฐบาลนี้เกษตรกรชาวสวนยางจะมีรายได้ทางเดียวคือรายได้จากการขายยางตามราคาตลาดซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาเพราะราคายางทั่วโลกตกต่ำและเพราะมีผลกระทบกับประเทศไทยด้วยทำให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้น้อยลงตรงนี้จึงเป็นที่มาของโยบายรัฐบาลชุดนี้  ที่ได้จัดให้มาโครงการประกันรายได้ขึ้นมา จากนี้ไปเกษตรกรจะมีรายได้ทางที่สองด้วย ก็คือรายได้จากเงินส่วนต่างที่รัฐบาลนี้จะจ่ายให้กับชาวสวนยางทั่วประเทศ ในหนึ่งปีฤดูกาลผลิตเราจะโอนให้ทุกสองเดือน และจะดำเนินการไปเรื่อยเรื่อยตราบเท่าที่ยังมีรัฐบาลชุดนี้ 

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

การคำนวณการประกันรายได้ให้เอารายได้ที่ประกันเป็นตัวตั้ง รัฐบาลชุดนี้ประกันรายได้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดีที่กิโลกรัมละ 60 บาท และน้ำยางสด 57 บาทต่อกิโลกรัม และยางก้อนถ้วยที่ 23 บาทต่อกิโลกรัมโดยยางแผนดิบที่กิโลกรัมละ 60 บาทเป็นตัวตั้งแล้วเอาราคาตลาดเป็นตัวลบ เราประกันรายได้ให้ชาวสวนยางหัวละไม่เกิน 25 ไร่ขึ้นอยู่กับผลผลิตของพี่น้องว่าได้กี่กิโลกรัม และจะเป็นเงินส่วนต่างที่พี่น้องได้รับซึ่งพี่น้องผลิตยางแผ่นดิบชั้นสามประกันรายได้กิโลละ 60 บาทนั้นถ้าพี่น้องมีสวนยาง 25 ไร่พอดี พี่น้องจะได้รับเงินส่วนต่าง 10,515 บาทและในหนึ่งฤดูกาลผลิตจะโอนให้ทุกสองเดือน

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

โดยเงินงวดต่อไป 10,515 บาท สวนยางก้อนถ้วยกรณี 25 ไร่ได้รับ 6,810 บาท และรัฐบาลจะโอนให้ทุกสองเดือนโดยงวดแรกคือวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 งวดต่อไป วันที่ 1 มกราคม 2563 และงวดต่อไปงวดที่3 วันที่ 1 มีนาคม 2563 และดำเนินการไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่จะมีรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ถือว่าโยบายประกันรายได้ชาวสวนยางเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อวุฒิสภาและเป็นคำมั่นสัญญาต่อพี่น้องประชาชนชาวสวนยางทั้งประเทศไว้แล้ว เราใช้เวลาแค่ 98 วันก็โอนเงินส่วนต่างได้ทำได้ไวและทำได้จริง 

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

"สำหรับเกษตรกรบัตรสีชมพูมีสิทธิ์ได้เงินส่วนต่างหรือไม่ ผมถามท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัยตอบว่าได้ครับโดยขออย่างเดียวคือขอให้ปลูกจริง แจ้งจริงว่าปลูกชนิดไหน กี่ไร่ ไม่ใช่ทำยางก้อนถ้วยแต่ไปแจ้งทำยางแผ่นดิบอันนี้ไม่ได้เพราะเงินส่วนต่างไม่เท่ากัน การยางฯจะเข้าไปตรวจสวนจากนั้น ธกส.จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีพี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องมีเงินเข้ากระเป๋าสองด้าน ด้านที่หนึ่งคือการขายได้ตามราคาตลาด และเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าขวา ทำให้มีรายได้สองกระเป๋าและรัฐบาลชุดนี้ยังมีนโยบายเสริมที่ต้องดึงให้ราคายางในประเทศสูงขึ้นด้วย" นายจุรินทร์ กล่าว 

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  อีก 1 เดือนหน้าพาพี่น้องประชาชนสู่การประเมินสวนยางยั่งยืนคือการที่จะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนเกษตรกรชาวสวนยางไม่ต้องพึ่งพาต้นยางอย่างเดียวในพื้นที่แต่เปิดโอกาสให้ปลูกพืชแซม นี่คือนโยบายประการที่หนึ่ง ประการที่สอง จะเพิ่มการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น โดย ส่งเสริมให้มีการลงทุนอุตสาหกรรมยางเพื่อมาผลิต ผลิตผลในประเทศมากขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีข่าวดีที่ภาคตะวันออก คือจะมีการตั้งโรงงานขยายการผลิตอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท จะทำยางพาราจะใช้ยางในประเทศมากขึ้น ขายดียิ่งขึ้น

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

"ที่สำคัญไปผมอินเดียมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเราสามารถพานักลงทุนไปเปิดตลาดยางที่อินเดียได้สำเร็จขายยางได้ 100,000 ตัน นำเงินเข้าประเทศ 9,000 กว่าล้านบาท สุดท้ายขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่จะได้รับเงินส่วนต่างครั้งแรกในประวัติศาสตร์  และทำให้ผมและท่านเฉลิมชัยสามารถทำนโยบายประกันรายได้ชาวสวนยังทำได้ไว้ทำได้จริง" 

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

ด้านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าวันนี้ถือเป็นวันที่พี่น้องเกษตรกรได้จดจำจารึกไว้วันหนึ่งว่าสิ่งที่เราได้สัญญาไว้กับพี่น้องในการที่จะประกันรายได้เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเราสามารถทำตามคำพูดและดำเนินการจนกระทั่งเงินมาถึงมือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางได้กว่า 1.7 ล้านคน ในพื้นที่ปลูกยางพารา 17 ล้านไร่ ให้มีรายได้ที่แน่นอนสม่ำเสมอ สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรชาวสวนยาง

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

โดยรัฐบาลจะประกันราคายางแทนการแทรกแซงราคา เพื่อลดการบิดเบือนกลไกตลาดและลดความผันผวนด้านราคาจากพ่อค้าคนกลาง โดยกำหนดราคาประกันรายได้จากการขายยางพารา 3 ชนิด ได้แก่ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 100%) ราคา 23 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีหลักเกณฑ์ให้เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย ที่มีต้นยางอายุ 7 ปีขึ้นไป เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่ กำหนดปริมาณผลผลิตยางประกันรายได้ (ยางแห้ง) ที่ 20 กิโลกรัมต่อไร่ต่อเดือน

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

สำหรับการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 1 มีการกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือนตั้งแต่ตุลาคม 2562 ถึงมีนาคม 2563 โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยาง 3 งวด ได้แก่ 1) ประกันรายได้เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2562 จ่ายงวดที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 - 15 พฤศจิกายน 2562 2) ประกันรายได้เดือนธันวาคม 2562 - มกราคม 2563 จ่ายงวดที่สอง ระหว่างวันที่ 1 - 15 มกราคม 2563 และ 3) ประกันรายได้เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2563 จ่ายงวดที่สาม ระหว่างวันที่ 1 - 15 มีนาคม 2563 โดยค่าบริหารโครงการวงเงิน 234 ล้านบาท ให้ใช้จ่ายจากเงินกองทุนพัฒนายางพารา

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

ทั้งนี้ ค่าประกันรายได้คำนวณจากราคายางที่ประกันรายได้ ลบราคากลางอ้างอิงการขาย แล้วคูณด้วยปริมาณผลผลิตยางตามเนื้อที่กรีดยาง เป็นค่าประกันรายได้ในแต่ละเดือน โดยจะจ่ายเงินประกันชดเชยรายได้ส่วนต่างจากการขายยางพารา 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง เข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยางโดยตรง ผ่าน ธ.ก.ส. แบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวนยาง 60% และคนกรีดยาง 40% ซึ่งในวันนี้ (1 พฤศจิกายน 2562) เป็นวันแรกที่มีการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกร จึงมั่นใจได้ว่าโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวสวนยางได้ตามหลักการ "ทำได้เร็ว ทำได้จริง" ตามที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

การจ่ายเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง (เจ้าของสวน ผู้เช่า ผู้ทำ และคนกรีดยาง) ที่แจ้งและขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 2562 เริ่มจ่ายในงวดแรก จำนวนกว่า 8 พันล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป เบื้องต้นมีเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยางกับ กยท. จำนวน 1,711,252 ราย แบ่งเป็นยางแผ่นดิบ 150,803 ราย น้ำยางสด 470,767 ราย และยางก้อนถ้วย 790,447 ราย คิดเป็นพื้นที่รวม 17,201,391 ไร่

คิกออฟจ่ายตรงชาวสวนยาง 1.7 ล้านรายเฮ!

สำหรับเงินประกันรายได้ในแต่ละเดือน จะถูกแบ่งระหว่างเกษตรกรเจ้าของสวนยางและคนกรีดยางในสัดส่วน 60:40 (ตามสัดส่วนการจ้างส่วนใหญ่ของข้อมูลขึ้นทะเบียน) โดยราคากลางจะกำหนดโดยคณะกรรมการกำหนดราคากลางอ้างอิงงวดแรก (ประกาศ ณ วันที่ 25 ต.ค.62) กำหนดราคายางแผ่นดิบ 38.97 บาท/กก. น้ำยางสด 37.72 บาท/กก. และยางก้อนถ้วย 16.19 บาท/กก.