นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเปิดตัวร้านอาหารรางวัลมิชลินจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2563 โดยร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ได้รับสัญลักษณ์รับรองจาก “MICHELIN Guide Thailand 2020” จำนวนถึง 50 ร้าน เป็นรางวัล “บิบ กูร์มองด์” 17 ร้าน และ “มิชลินเพลท” 33 ร้าน พร้อมชูแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ขยายเพดานรายได้ท่องเที่ยวต่อหัวของนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเชียงใหม่
รองผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ได้ร่วมกับมิชลินจัดทำคู่มือรวบรวมรายชื่อโรงแรมและร้านอาหารเป็นปีที่ 3 ภายใต้ชื่อ “MICHELIN Guide Thailand 2020” ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต พังงา รวมถึงนับเป็นครั้งแรกสำหรับการจัดอันดับร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ โดยนับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งที่ปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับสัญลักษณ์รับรอง “บิบกูร์มองด์” ซึ่งแนะนำร้านโปรดของผู้ตรวจสอบมิชลินที่เสิร์ฟอาหารคุณภาพดีในราคาไม่เกิน 1,000 บาท (ราคานี้เป็นราคาอาหาร 3 คอร์ส ไม่รวมเครื่องดื่ม) จำนวนถึง 17 ร้าน
ได้แก่ ไก่ย่างเชิงดอย จินเจอร์ฟาร์มคิชเช่น คั่วไก่นิมมาน ฮ้านถึงเจียงใหม่ เฮือนสุนทรี เฮือนม่วนใจ๋ ข้าวซอยแม่มณี ข้าวต้มย้ง (สาขา ถ.สุเทพ) ครัวย่า มีนา ราชารส เดอะเฮ้าส์บายจินเจอร์ เนื้อวัวรสเยี่ยม ครัวสายหยุดและหมอทราย ขนมจีนสันป่าข่อย ไก่ย่าง เอส พี และ ณ จันตรา และได้รับสัญลักษณ์ “มิชลินเพลท” หรือร้านอาหารคุณภาพที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน จำนวน 33 ร้าน
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่นับเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย และหนึ่งในจุดหมายปลายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่โดดเด่นทั้งในเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอาณาจักรล้านนาที่ยาวนานกว่า 700 ปี แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และเอกลักษณ์ด้านอาหารการกินทั้งอาหารถิ่นและอาหารระดับนานาชาติ เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวในทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี โดยระหว่างเดือนมกราคม - ตุลาคม 2562 จังหวัดเชียงใหม่มีรายได้จากการท่องเที่ยว 84,203 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.91 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3,562 บาท/คน/วัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.90 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 4,446 บาท/คน/วัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.81 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อีกทั้งค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มยังถือเป็นหมวดค่าใช้จ่ายสำคัญที่เติบโตขึ้นมากที่สุดตามลำดับได้แก่ ค่าที่พัก ค่าอาหารและเครื่องดื่ม และค่าของที่ระลึก ซึ่งการได้รับรองจากมิชลินในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีถึงมาตรฐานด้านอาหารของจังหวัดเชียงใหม่ว่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ ททท. สามารถขับเคลื่อนการกระตุ้นค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในด้านอาหาร และพัฒนาต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ในพื้นที่ต่อไป