ช่วงต้นปีที่ผ่านมาภาพรวมตลาดอาหารและเครื่องดื่มเมืองไทยระอุและร้อนแรวในทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะในฟากของกลุ่มธุรกิจค่าเฟ่ขนมหวาน และบิ๊กเนมในแวดวงธุรกิจต่างเริ่มเสริมพอร์ตบริษัทให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และที่สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยคือเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท พีดีเอส โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัญญาแฟรนไชส์หลัก (Master Franchise Agreement) ของร้านคาเฟ่และขนมหวาน GRAM และ PABLO ของบริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ภายใต้งบประมาณกว่า 110 ล้านบาท ด้วยหวังต้องการเสริมทัพความแข็งแกร่งให้บริษัท พร้อมทั้งช่วยเสริมยอดรายได้การเติบโตของบริษัทได้อย่างชัดเจนในปีถัดไป
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มต้นการทำธุรกิจมาจากอสังหาริมทรัพย์ มีธุรกิจรีสอร์ท คอนโดมิเนียม และได้มีการแตกไลน์ธุรกิจไปยังกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยเริ่มต้นจากการทำร้าน Skoop beach café (สกู๊ป บีช คาเฟ่) สถานที่เช็คอินยอดฮิตติดชายทะเลพัทยาและหัวหิน และตามมาด้วย KOF (คอฟ) คอฟฟี่บาร์ดีไซน์เก๋ใจกลางเมือง โดดเด่นในเรื่องกรรมวิธีการผลิต และการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม นอกจากนี้เราเองก็ยังมองหาโอกาสที่จะขยายกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง จนได้ Gram Pancakes Thailand และ Pablo เข้ามาเสริมทัพกลุ่มธุรกิจนี้ให้แข็งแกร่งมากขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทยังคงมุ่งขยายสาขา คาดว่าจะใช้งบการลงทุนโดยประมาณ 3 ล้านบาทต่อสาขา สำหรับงานออกแบบก่อสร้างและกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ เน้นสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ เพื่อเข้าถึงและขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น โดยเน้นพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าในรูปแบบเดลิเวอรี่ สำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่งไปทานที่บ้าน มอบเป็นของขวัญ หรือรูปแบบการออกบูธ งานจัดเลี้ยงต่างๆ เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และแนวโน้มเดลิเวอรี่ก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงต้องเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดให้มากขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้แบรนด์เป็นที่พูดถึง และอยู่ในใจของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
“ปัจจุบันแกรมมีสาขาให้บริการกว่า 8 สาขา สาขาล่าสุดตั้งอยู่ที่ เจ อเวนิว ทองหล่อ ซอย 13 ซึ่งมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ “gram Premium” (แกรม พรีเมียม) ตกแต่งร้านด้วยโทนสีขาว สบายตา และเพิ่มมุมสำหรับถ่ายภาพให้มากขึ้น อีกทั้งยังมีการครีเอทเมนูใหม่ที่ต่อยอดมาจากแบรนด์ Skoop อย่างเมนู Premium To Go Ice Cream (พรีเมียม ทู โก ไอศกรีม) คือ การผสมผสานกันระหว่างไอศกรีมกับแพนเค้ก สร้างความแปลกใหม่ให้กับสาขาทองหล่อโดยเฉพาะ และอย่างที่ทราบกันดีว่าในขณะนี้เทรนด์ผู้บริโภคค่อนข้างเปลี่ยนไปจากเดิม การพบปะพูดคุยกัน”
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ และชานเมืองในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้เติบโตอยู่ที่ประมาณ 25% ในสิ้นปีนี้