ตัวเลขการค้าชายแดนไทยปีนี้มีแนวโน้ม เติบโตตํ่ากว่าเป้า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ฉายภาพการรุกตลาดเพื่อนบ้านในปี 2563 ระหว่างเสวนา “โฉมหน้าประเทศไทย 2020” งานดินเนอร์ ทอล์กเครือเนชั่น เมื่อ 17 ธ.ค. 2562 อย่างน่าสนใจ
...การค้าชายแดนเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ต้องทำ และปีนี้ (2562) ที่ได้ทำแล้ว คือไปขจัดอุปสรรคปัญหาการค้าไทย-มาเลเซีย รวมทั้งไทย-เมียนมาที่แม่สอด วันนี้เราร่วมกับภาคเอกชนขับเคลื่อนจนสะพานแม่สอดแห่งที่ 2 เปิดได้แล้วเมื่อ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วยให้สินค้าที่จะไหลเข้าเมียนมาคล่องตัวขึ้น แทนที่รถจะติดเป็นกิโลๆ ทำให้เกิดรายได้จากการส่งออกสินค้าที่จะส่งออกไปหรือที่นำเข้ามาติดขัดชะงักงัน การค้าชายแดนแก้ปัญหาอุปสรรคที่มุกดาหารที่จะไปทางลาว อันนี้ก็เสร็จแล้ว และอีกหลายพื้นที่ที่มีผลเป็นรูปธรรม ไม่เพียงเรื่องสะพานแม่สอด 2
ถัดจากนี้ไปในปี 2563 ผมจะไปแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ที่สระแก้ว และต่อไปจะลงลึกในการที่จะดำเนินการเจาะตลาดรายเมือง ในส่วนของตลาดซีแอลเอ็มวี ซึ่งเป็นตลาดใกล้เราและอยู่ชายแดน ตรงนี้ตัวเลขส่งออกจะขึ้นเร็วมากที่สุด เพราะแค่ส่งสินค้าข้ามแดนไปตัวเลขก็ขึ้นทันที ไม่ต้องขึ้นเครื่องบินไม่ต้องลงเรือ ไม่ต้องรอกันห้าวันสิบวันยี่สิบวัน
เมื่อ 16 ธ.ค.2562 ได้นั่งคุยกับหอการค้านครพนม ท่านเสนอมาผมก็รับทันทีเพราะเป็นแนว เดียวกันอยู่แล้ว ท่านเสนอว่า กับเวียดนามเป็นการค้าข้ามแดนที่เป็นตลาดใหญ่ในซีแอลเอ็มวี ที่เราควรจะไปบุก ก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นเที่ยวนี้เราจะไปจัดโรดโชว์ เอาสินค้าระดับชาติและเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นจากสินค้าท้องถิ่นจากอีสานของไทยเราไปบุกตลาดเวียดนามด้วย และไม่ใช่ไปแบบภาพรวม จะต้องไปเจาะทั้งฮานอย ไปเจาะที่โฮจิมินห์ และไปเจาะที่ดานัง
เช่นเดียวกับกัมพูชาต้องไปเจาะที่พนมเปญและเมืองอื่นๆ ให้เจ้าหน้าที่ไปเตรียมแผนงานในปี 2563 นี้เลย เพราะอันนี้เงินเข้าเร็วที่สุด และศักยภาพทางเศรษฐกิจเขาก็ยังดีอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าประเทศยักษ์ใหญ่หลายประเทศชะลอตัว
ที่สำคัญอีกประการคือ ทำอย่างไรให้สินค้าของเราไปขึ้นในแพลตฟอร์มเว็บไซต์ดังๆ ทั้งเว็บไซต์ไทยและต่างประเทศ ผมเตรียมแผนเรียบร้อยแล้ว ปีนี้(2562) เราเตรียมโดยนำสินค้าไทยระดับไฮเกรดหรือพรีเมียมไปขึ้นเว็บไซต์ทีมอลล์ของจีน ผมไปเจรจาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และลงนามกับเขาระหว่างไปงานอิมปอร์ต เอ็กซ์โปที่เซี่ยงไฮ้ ที่ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มาเป็นประธานเปิดงาน ตอนนี้สินค้าไทยของเราก็เริ่มเข้าแพลตฟอร์มทีมอลล์ของอาลีบาบาของจีนได้แล้วสำหรับสินค้าพรีเมียม
ปีหน้า (2563) เรามีแผน 5 ตลาดใหญ่ในการจะนำสินค้าไทยไปขึ้นแพลตฟอร์มนั่นคือ
1.บิ๊กบาสเก็ต.คอมของอินเดีย ไตรมาสแรกจะทำให้สำเร็จ 2.พีซีโฮมของไต้หวัน อันนี้ก็อยู่ในเป้าหมายว่าไตรมาสแรกจะทำให้เสร็จ 3.อะเมซอนของอเมริกา 4.อะเมซอนของญี่ปุ่น และ 5.เฟรสโตมอลล์ของมาเลเซีย
เหล่านี้อยู่ในเป้าหมายที่ได้เตรียมการอย่างเป็นระบบ
ล้อมกรอบ
งานหิน‘ค้าเพื่อนบ้าน’
ตลาด CLMV ยังโตชะลอ
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) รายงานใน CLMV Monitor ฉบับล่าสุดไตรมาส 4 ปี 2562 ชี้ว่า สถานการณ์การค้าโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และการเติบโตที่ชะลอลงในประเทศเศรษฐกิจหลัก เป็นความท้าทายส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจซีแอลเอ็มวี ผ่านการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ดี การปรับโครงสร้างห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาคจากผลกระทบสงครามการค้า ถือเป็นผลดีบางส่วนต่อเศรษฐกิจซีแอลเอ็มวี โดยเฉพาะในเวียดนามอย่างน้อยในระยะสั้น จากที่บริษัทผู้ผลิตจีนและบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตมายังกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี เพื่อเลี่ยงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ หลั่งไหลเข้ามายังประเทศซีแอลเอ็มวีอย่างต่อเนื่องในระยะข้างหน้า
นอกจากนี้การบริโภคภายในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว จะช่วยรองรับผลกระทบทางลบจากความเสี่ยงภายนอก ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอลง
หน้า 19 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,535 วันที่ 29 ธันวาคม 2562-1 มกราคม 2563