สงคราม‘กาแฟ’สนั่นตรัง กว่า80ร้านแข่งจับลูกค้า
รายงาน โดย : ธีมดี ภาคย์ธนชิต์
กาแฟสดเมืองตรังแข่งสนั่นกว่า 80 ร้าน ตั้งแต่แบรนด์กาแฟข้ามชาติ ถึงร้านท้องถิ่น “เกรย์ 18 คาเฟ่” ชี้ต่างมีจุดแข็งจับตลาดต่างกันไป แต่ในความหลากหลายได้ต่อยอดวิถีร้านกาแฟเมืองตรัง คงเป็นจุดนัดพบพักผ่อน พูดคุย เจรจาธุรกิจ ในร้านติดแอร์ พร้อมบริการไว-ไฟดึงลูกค้า
ตรัง เมืองคนช่างกิน กาแฟหมูย่างคือเมนูเช้าแสนอร่อยที่ขึ้นชื่อ เป็นวิถีพื้นถิ่นที่คนตรังผูกพันร้านกาแฟมายาวนาน วันนี้ “ร้านกาแฟสด” ในเขตเมืองตรัง แข่งขันกันเปิดให้บริการลูกค้ากว่า 80 ร้าน โดยปรับรูปโฉมสู่ร้านติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉํ่า มีโต๊ะ เก้าอี้ ที่นั่งหลากหลายสไตล์ เพื่อใช้เป็นที่พบปะพักผ่อน พูดคุย เจรจาธุรกิจ พร้อมบริการไว-ไฟเพื่อท่องอินเตอร์เน็ต จึงต้องงัดจุดแข็งออกมาดึงดูดลูกค้าต่างกันไป
ร้านกาแฟสดเขตเทศบาลเมืองตรัง มีตั้งแต่แบรนด์ข้ามชาติ คือ สตาร์บัคส์ มีเปิด 2 สาขาที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ในห้างโรบินสันตรัง ส่วนแบรนด์ท้องถิ่นชื่อดังคือ “เกรย์18 คาเฟ่” อยู่ถนนวิเศษกุล ใกล้สี่แยกสาริการาม ชูจุดแข็งคือ หาซื้อและคัดกาแฟคุณภาพมาคั่วในโรงงานของตนเอง เพื่อรักษาคุณภาพให้ได้มาตรฐาน ด้วยยี่ห้อการค้าของตนเอง
ขณะร้านกาแฟแบรนด์ไทยจากส่วนกลาง มีทั้งอเมซอน และอินทนิล ที่เปิดขายในปั๊มนํ้ามัน รองรับนักเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงลูกค้าในพื้นที่เข้ามาแวะพักดื่มกาแฟได้ ต่อมาร้านอเมซอนได้ขยายจากปั๊มไปเปิดในห้างโรบินสันตรัง รวมถึงเปิดเป็นร้านเดี่ยวในห้องแถวย่านตลาดทับเที่ยง ถนนพระราม 6 เพื่อจับลูกค้าย่านใจกลางเมือง
นอกจากนี้มีร้านกาแฟสดในท้องถิ่น ที่ซื้อเม็ดกาแฟที่คั่วแล้วยี่ห้อต่างๆ มาชงขายให้ลูกค้า โดยปรับปรุงพื้นที่บ้านพักตนเอง ห้องแถว พื้นที่ว่างหน้าบ้าน เปิดเป็นร้านกาแฟกระจายอยู่เกือบทั่วเมือง
“ธัญยนันท์ กันตังพันธุ์” เจ้าของร้าน “เกรย์18 คาเฟ่” เล่าว่า เมืองตรังมีร้านกาแฟสดติดแอร์ บริการไว-ไฟ ไฟฟ้า ที่นั่งให้ลูกค้า กำลังเป็นที่นิยม มีทั้งแบรนด์ต่างชาติ แบรนด์ประจำปั๊มนํ้ามันจากส่วนกลาง จนถึงร้านกาแฟสดท้องถิ่นที่มีเป็นจำนวนมาก เพราะคนตรังและนักท่องเที่ยวนิยมดื่มกาแฟ ระหว่างพบปะพูดคุยกัน เฉพาะเขตเทศบาลและใกล้เคียงมีกว่า 80-100 ร้าน
สำหรับ “เกรย์18 คาเฟ่” เปิดมา 4 ปี มีโรงคั่วเองสามารถกำหนดคุณภาพกาแฟให้ตรงความนิยมของลูกค้า โดยไปเลือกซื้อกาแฟอราบิก้าชั้นดีถึงไร่ที่เชียงใหม่-เชียงราย รวมถึงนำเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศมาขายเป็นทางเลือกอีกด้วย เช่น กาแฟอินโดนีเซีย โคลอมเบีย เอธิโอเปีย เป็นต้น
ด้าน “ชานนท์ เดชภักดี” ผู้ซื้อแฟรนไชส์เปิดร้านกาแฟอินทนิล เริ่มแรกเมื่อ 6 ปีก่อนในปั๊มนํ้ามันบางจาก ตลาดห้วยยอด ถนนเพชรเกษม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ประสบความสำเร็จดี มีลูกค้าใช้บริการล้นหลาม เมื่อปีที่แล้วจึงเปิดเพิ่มที่ปั๊มบางจากถนนวิเศษกุล อำเภอเมืองตรัง มีลูกค้าท้องถิ่นในตลาดทับเที่ยง และคนเดินทางแวะมาเข้าปั๊มได้พักดื่มกาแฟจำนวนมาก
จุดแข็งของอินทนิลคือ เป็นร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงมาตรฐาน โดยมีบริษัท บางจากรีเทล จำกัด พร้อมบริษัทที่ปรึกษา คอยติดตามควบคุมคุณภาพ ลูกค้าร้านกาแฟอินทนิลสบายใจได้ว่า สินค้าในร้านมีคุณภาพ นอกจากกาแฟยังมีเครื่องดื่มอื่น รวมถึงขนม เบเกอรี่ อาหารจานเดียวบริการลูกค้าและนักเดินทาง เข้ามานั่งพักรับแอร์เย็นๆ พร้อมบริการไว-ไฟ ไฟฟ้า โดยมีที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย และปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักดื่มกาแฟเมืองตรังมีหลากหลายกลุ่ม ราคาเป็นตัวจำแนกกลุ่มลูกค้า เพราะมีกำลังซื้อไม่เท่ากันในการตัดสินใจจะไปนั่งดื่มกาแฟร้านไหน โดยร้านกาแฟสดท้องถิ่นทั่วๆ ไป ที่เปิดร้านในห้องแถวคูหาเดียว ร้านสวน ที่ว่างหน้าบ้าน ซื้อกาแฟคั่วสำเร็จจากตลาดมาชงขายลูกค้า ราคากาแฟอยู่ที่แก้วละ 35-40 บาท
ร้านกาแฟท้องถิ่นที่สร้างแบรนด์กาแฟของตนเองอย่าง “เกรย์18 คาเฟ่” ที่หาซื้อเมล็ดกาแฟมาคั่วในโรงคั่วตนเอง มีกาแฟคั่วใหม่สดบริการทุกวัน ร้านมีบริเวณกว้างขวางรองรับลูกค้าได้กว่า 200 คน โต๊ะ เก้าอี้ ที่นั่ง หลากหลายรูปแบบ สามารถปรับนั่งประชุมได้ รวมทั้งมีลูกค้าแปลงสถานที่เป็นสตูดิโอถ่ายภาพคู่บ่าวสาว งานรับปริญญาได้ด้วย ราคากาแฟอยู่ที่ 60-75 บาท
ขณะที่แบรนด์กาแฟข้ามชาติ ราคาเริ่มที่กว่า 100 บาทขึ้นไป ซึ่งในวันเสาร์-อาทิตย์ ลูกค้าเข้าห้างเยอะมีลูกค้าใช้บริการเนืองแน่น ขณะที่วันทำงานก็มีลูกค้าหมุนเวียนเข้าใช้บริการต่อเนื่อง เฉลี่ย 50-60% โดยมีที่นั่งกว้างขวาง แอร์เย็นสบาย
แบรนด์ร้านกาแฟท้องถิ่นยืนอยู่ได้ เพราะคุณภาพกาแฟที่อร่อยดี ราคาชาวบ้าน ส่วนร้านกาแฟในปั๊มยังยิ้มและยืนได้อย่างแข็งแรง เพราะค่าเช่าสถานที่ถูก มีที่จอดรถ มีการควบคุมคุณภาพสินค้าบริการ แบรนด์ข้ามชาติราคาค่อนข้างสูง สำหรับผู้มีกำลังซื้อ และการหาประสบการณ์
ต่างคนต่างมีจุดแข็งแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าใครจะผูกใจลูกค้าเอาไว้ได้
หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,551 วันที่ 23 - 26 กุมภาพันธ์ 2563
