นายจักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า การเลื่อนเปิดเทอมไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรองเท้านักเรียน เนื่องจากเป็นสินค้าในกลุ่มของใช้กึ่งจำเป็น ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องซื้อหาให้บุตรหลานในการใช้งานในช่วงเปิดเทอมอยู่แล้ว โดยไตรมาสแรกบริษัทมีการเติบโต 3% เป็นผลพวงที่ได้รับมาจากร้านค้าได้ซื้อสินค้าเพื่อเตรียมรับช่วงเปิดเทอมในช่วงไตรมาส 3 และการอ่อนตัวของค่าเงินบาทส่งผลให้การส่งออกดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศเมียนมา ที่เป็นช่วงไฮซีซันและมีเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต
สำหรับยุทธศาสตร์การทำงานของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 ช่วงได้แก่ ช่วงที่ 1 คือช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ต้องมีการปรับแผนงานเพื่อรับมือในรูปแบบต่างๆ ช่วงที่ 2 ช่วงระยะของการหมดโควิด -19 ทันที และช่วงที่ 3 คือการเกิดขึ้นใหม่ของ New Normal ที่จะต้องมีการตั้งแผนงานรับ ซึ่งจากการปรับการดำเนินงานเป็นรูปแบบดังกล่าวทำให้ช่วงที่ผ่านมายังสามารถรักษาการเติบโตไว้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าปีนี้ถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทายของบริษัทเป็นอย่างมาก ที่ต้องมีการเตรียมแผนงาน ปรับทัพ เพื่อรับมือกับปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามากระทบภาพรวมตลาด โดยเฉพาะปัญหาการระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้มองว่าโดยรวมตลาดจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติ เพียงแต่รอเวลาที่เหมาะสม ส่วนตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนนั้นจะเป็นการชะลอการตัดสินใจซื้อเท่านั้น พอถึงฤดูกาลเปิดเทอมกำลังซื้อก็จะกลับมา ซึ่งเชื่อว่าการเปิดตัวแคมเปญและรองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ของบริษัทจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังได้ปรับช่องทางการขายไปยังออนไลน์มากขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมียอดขายหลักมาจากช่องทางเทรดดิชันนอลเทรด 75%โมเดิร์นเทรด 20% และช่องทางออนไลน์ 5% ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่เมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ
ล่าสุดเพื่อเป็นการรองรับช่วงเปิดเทอม บริษัทได้เปิดตัว Nanyang Have Fun รองเท้านักเรียนประถม ที่ไม่ต้องผูกเชือก ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนักเรียนชั้นประถมโดยเฉพาะราคา 285 บาท โดยสินค้าทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่เดือน พฤษภาคม เป็นต้นไป ที่ร้านรองเท้ากว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ต่างๆ
อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาภาพรวมตลาดรองเท้านักเรียนมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท มีผู้เล่นในตลาดราว 10 ราย แบ่งเป็นรองเท้าผ้าใบ 60% รองเท้านักเรียนหญิง (หนัง) 35% อื่น 5% และคาดการณ์ว่าปีนี้จะทรงตัวจากปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันนันยางครองส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มรองเท้าผ้าใบ 43% ครองส่วนแบ่งเป็นผู้นำในตลาดขณะนี้ โดยปีนี้บริษัทยังคงวางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 5% โดยไม่มีการปรับเป้าใดๆ ทั้งสิ้น
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,575 วันที่ 17-20 พฤษภาคม 2563