“หนอนกระทู้” บุกไทย ฆ่าอย่างไรไทยแอนตี้สารเคมี

29 ก.ค. 2563 | 05:45 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2563 | 12:46 น.

​​​​​​​มหันตภัย “หนอนกระทู้” ลุกลามหนักทั่วประเทศ  “นายกสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ฯ” กระตุ้นกรมวิชาการเกษตร อย่าเกียร์ว่าง ชี้หายนะ เกษตรกรเจ๊ง เริ่มไถทิ้งแล้ว ยอมรับว่างานหิน บนวิกฤติไทยแอนตี้สารเคมี จะจำกัดอย่างไร

 

ดร. ชัยฤกษ์ สงวนทรัพยากร

 

ดร.ชัยฤกษ์ สงวนทรัพยากร นายกสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ฤดูปลูกข้าวโพดเริ่มแล้วลืมเรื่องหนอนกระทู้ลายจุดข้าวโพด ที่เคยทำลายผลผลิตข้าวโพดไปกว่า 30% กันไปหรือยัง ตอนนี้เริ่ม "ไถทิ้ง" กันบ้างแล้ว ปีนี้สถานการณ์น่าห่วง เนื่องจากตอนนี้มันมีวิวัฒนาการสามารถจู่โจมและทำลายได้ต้นกล้างอกขึ้นมาแค่ 7 วันเท่านั้น จากก่อนหน้านี้ฤดูกาลที่แล้ว กรมวิชาการเกษตรแนะนำก็คือ ให้ฉีดพ่นยาอาทิตย์ที่2 และ 3  เพราะสภาพแวดล้อมบ้านเราดี ตัวมันกินสารพัด เวลาข้าวโพดไม่มีก็ไปอาศัยกินอ้อย หรือพืชไร่ชนิดอื่น ปะทังชีวิตอยู่รอดไป ในกรณีที่การทำลายทำลายรุนแรงกว่า คราวที่แล้วปลูกมาสักระยะหนึ่งค่อยๆ ทำลาย แต่ว่าตอนนี้ฝังตัวอยู่รอบๆ แล้ว พร้อมที่จะเข้าทำลายและจู่โจมทุกเวลา

 

“ผมอยากเตือนผู้เที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะรัฐบาล และกรมวิชาการเกษตร เพราะเกษตรกรสู้เต็มที่แล้ว สารเคมีที่บอกว่าจะไม่ใช้กัน ยังมีคนดื้อแพ่งแอนตี้สารเคมี ผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ต้องเตือนคนที่เกี่ยวข้อง ว่าอย่าลืม ยังอยู่นะ แล้วถ้าฤดูปลูกข้าวโพดซึ่งเป็นฤดูหลักมาเมื่อไร เกรงว่าจะกลายเป็นการเพาะเชื้อเพิ่มเติมเข้าไปอีก สถานะบ่มเตรียมแพร่พันธุ์ไว้ พอฤดูหลักมาระบาดพรึบพร้อมกันเลย”

 

 

ปกติของไทย ผลผลิตข้าวโพด 1 ไร่ ปีละ 4.5-4.6  ล้านตัน ปีที่แล้วเสียหายไปร่วม 30%  อะไรเกิดขึ้นก็มีการนำเข้า มีการสวมสิทธิ์เข้ามาเป็นข้าวโพดไทย แล้วถ้าขาดแคลนจริงๆ ไม่ใช่ระบาดแค่ในประเทศไทย ระบาดไปทั่วแล้ว จะไม่ใช่สารเคมีแล้วจะอยู่รอด เท่าที่ผมได้ข่าว มียาตัวใหม่ที่จะพยายามจดทะเบียน แต่ยงไม่ได้อนุมัติ เราไม่ยุ่งเพราะอยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่จะอนุมัติยาตัวไหน แต่ว่าแมลงตัวนี้จะดื้อยาเร็ว เพราะจะใช้ยาซ้ำซากมีอยู่เดี๋ยวก็มีหวังหายนะ

 

“หนอนกระทู้” บุกไทย ฆ่าอย่างไรไทยแอนตี้สารเคมี

 

1.เตือนหน่วยราชการให้ต่างๆ ให้ตื่นขึ้นมาระวังเรื่องนี้ 2.แจ้งเกษตรกรให้รับมือว่าจะมีเรื่องนี้ให้หาวิธี ปกติข้าวโพดปลูกกันใช้ค่าเฉลี่ย 700 กก./ไร่ คนที่ทำได้สูงสุดอาจะทำได้ถึง 1,400-1,500 กก./ไร่ จำกัดอยู่เฉพาะเขตบริเวณภาคกลางเท่านั้น ตั้งแต่ระดับต่ำเพชรบูรณ์ลงมาภาคกลางถึงจะได้ผลผลิตสูง นอกจากนั้นผลผลิตจะต่ำ ตัวต้นทุนการผลิต 2 พันบาทต่อไร่ คนหนึ่งคน จะมี 20-30 ไร่ โดยเฉลี่ย ถ้าต้องใช้ยาเพิ่มค่ายา ปีทีแล่วบอกว่าเพิ่มค่าใช้จ่าย คำแนะนำของกรม20% จะเหลือเท่าไร ต้นทุนไร่ละ2,000บาทเพิ่มอีก 20%  ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยเพิ่ม 3,000-3,500 บาท ขายข้าวโพด 700 กก./ไร้ ได้กก.ละ 8 บาท ได้มา 5,600 บาท ลบต้นทุน 3,500 บาท เหลือแค่ 2,000 บาท แล้วถ้าต้นทุนเพิ่มอีก 20% หักแล้วจะเหลือ แค่ 1,400 บาท ส่วนเกษตรกรจะได้รับ แต่ถ้าผลผลิตต่ำกว่า 700 กก.ต่อไร่ จะขาดทุนเอานะ อยากให้คนที่เกี่ยวข้องเร่งหาวิธีกำจัดโดยเร็ว