นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท.ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมมือกันในการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมีกรอบความร่วมมือในการดำเนินงานร่วมกัน ได้แก่ การส่งเสริมและกระตุ้นให้สมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงทั้งสองหน่วยงานจะร่วมมือกันในการออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวที่จะส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเชิงลึก ตลอดจนการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และสื่อสารกลยุทธ์การทำงานระหว่างกัน
ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือดังกล่าวรวมไปถึงการเชื่อมโยงความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เช่น สายการบิน ผู้ประกอบการธุรกิจในภูมิภาค ซึ่งจะถูกดึงเข้ามาร่วมวางแผนสร้างกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวร่วมกันกับทั้งสององค์กรด้วย
“ความร่วมมือการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ถือเป็นมิติใหม่ในการดำเนินการเชิงรุกกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ ภายหลังรัฐบาลได้มีนโยบายผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาระยะหนึ่ง โดยการใช้กลไกของสมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ทั่วประเทศ เป็นช่องทางเชื่อมโยงความร่วมมืออย่างแนบแน่นในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากเป็นสถาบันหลักภาคเอกชนของประเทศที่มีพลังในการส่งเสริมการค้าและเศรษฐกิจ มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เชื่อมั่นว่าการลงนาม”
ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีที่ทั้งองค์กรภาคเอกชนและหน่วยงานจากภาครัฐจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อหาวิธีการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะมากขึ้น
สำหรับการขับเคลื่อนของหอการค้าไทยและเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว ที่ประกอบไปด้วยหอการค้าจังหวัด, สมาคมการค้า, หอการค้าต่างประเทศ, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และผู้ประกอบการ รุ่นใหม่ หอการค้า หรือ YEC ซึ่งมีเกือบแสนรายทั่วประเทศ ได้มีการส่งเสริมและขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ภายใต้แนวทาง “การสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการรักษาและดูแลสุขภาพ (Medical & Wellness Hub) ของเอเชีย โดยขับเคลื่อนกิจกรรมผ่านโมเดล “Happy Model” หรือ “โมเดล อารมณ์ดี มีความสุข” ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ด้าน ได้แก่ กินดี (Eat Well) อยู่ดี (Live Well) ออกกำลังกายดี (Fit Well) และแบ่งปันสิ่งดี ๆ (Give Well)
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในวันนี้ รวมถึงกิจกรรม/โครงการ ที่กำลังจะเกิดจากคณะทำงานฯ หากนำโมเดลดังกล่าวฯ ไปใช้ในการขับเคลื่อนโครงการ จะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นไป เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทยมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อเป็นกลไกให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน (Local Economy) ซึ่งจะเป็นฐานรากที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ นำไปสู่การสร้างและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้