นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เผยว่า จากสถานการณ์โควิดทำให้ความต้องการซื้อปลากะพงจากภัตตาคารร้านอาหารและนักท่องเที่ยวรวมทั้งผู้บริโภคทั่วไปลดต่ำลง ส่งผลให้ปลากะพงระบายไม่ทัน มีเหลืออยู่ในกระชังจำนวนมาก และปลาก็โตไปถึงจนถึงตัวละ 5-6 กิโลกรัมหรือใหญ่กว่านั้นแล้ว แม็คโครจึงได้บูรณาการความช่วยเหลือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ในการรับซื้อและระบายผลผลิตออกสู่ตลาด ผ่านแม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมจนถึงปัจจุบัน รวมแล้วสามารถช่วยซื้อปลากะพงจากเกษตรกรได้ถึง 300 ตันในระยะเวลา 3 เดือน
“ปกติแล้วปลากะพงที่กลุ่มลูกค้าภัตตาคาร ร้านอาหาร ต้องการใช้จะเป็นขนาด 800 กรัมถึง 1 กิโลกรัม แต่ผลผลิตที่แม็คโครรับซื้อช่วยเกษตรกรส่วนใหญ่แล้ว ตัวโตเกินความต้องการ ทำให้เราต้องคิดหาทางแก้ไข โดยเพิ่มความหลากหลายด้วยการนำปลาขนาดใหญ่มาแล่หั่นชิ้น ตามมาตรฐานอาหารปลอดภัย แล้วจำหน่ายให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ที่ต้องการเนื้อปลากะพงสดสะอาดปลอดภัยไปสร้างสรรค์เมนูอื่นๆ นอกเหนือจากเมนูยอดฮิตอย่าง ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลากะพงนึ่งมะนาว ซึ่งสินค้ารายการนี้ได้รับความนิยมจนกลายเป็นไอเท็มเด็ดและเป็นที่พูดถึง ที่สำคัญช่วยระบายปลากะพงจากเกษตรกรไปได้มาก”
ทั้งนี้แม็คโครไม่เพียงเพิ่มรูปแบบชนิดสินค้าแล่หั่นชิ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า หากยังสนับสนุนกิจการส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยร่วมกับสมาคมภัตตาคารไทย จัดกิจกรรมโรดโชว์ ‘ปลากะพงเพิ่มค่า พัฒนาเมนูใหม่ ให้ร้านอาหาร’ ทั่วทุกภูมิภาคจนถึงสิ้นปีนี้ ร่วมด้วยการจัดโปรโมชั่นที่สาขาอย่างต่อเนื่อง
นางศิริพร กล่าวอีกว่า ด้วยนโยบายเคียงข้างเกษตรกร แม็คโครได้มุ่งมั่นช่วยเหลือเกษตรกรทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เพื่อส่งเสริมการบริโภคสินค้าเกษตรภายในประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยและผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งมีส่วนในการผลักดันให้กลไกเศรษฐกิจให้ยังขับเคลื่อนและเติบโตได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม็คโครผนึกพันธมิตร ส่งมอบ 30 โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่
แม็คโครจับมือก.เกษตรฯ-คิงฟรุทซ์ ขยายกล้วยหอมแปลงใหญ่โคราช