รายงานข่าวระบุว่า บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ “ธพว.”(SME D Bank) ประจำปี 2563 อยู่ที่ “AAA(tha)” แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ และคงอันดับเครดิตระยะสั้นที่ “F1+(tha)”
ทั้งนี้ สะท้อนมุมมองของฟิทช์ ว่า SME D Bank มีโอกาสสูงจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีที่มีความจำเป็น โดยพิจารณาจากบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการจากธนาคารพาณิชย์ได้เพียงพอ โดยเฉพาะช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ
อย่างไรก็ดี อันดับเครดิตภายในประเทศยังสะท้อนถึงสถานะทางกฎหมายของธนาคาร ซึ่งก่อตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติเฉพาะเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจ อีกทั้ง ยังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล และมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงจากกระทรวงการคลังถึง 98.9%
รัฐบาลให้การสนับสนุน ธพว. โดยการชดเชยดอกเบี้ยและชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากหนี้เสียสำหรับสินเชื่อภายใต้โครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี อีกทั้ง กระทรวงการคลังสนับสนุนเพิ่มทุนให้ต่อเนื่อง รวมถึงให้การค้ำประกันหุ้นกู้ของ SME D Bank ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของ SME D Bank ในช่วงภาวะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) โดย SME D Bank มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งการเลื่อนชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึง ให้เงินกู้ฉุกเฉิน
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า การได้รับจัดอันดับเครดิตที่ ‘AAA (tha)’ ต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2563 หรือ 8 ปีซ้อนมาแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพเครดิตของ SME D Bank และการมีบทบาทสำคัญในเชิงนโยบายต่อรัฐบาลตามที่ได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติจัดตั้งธนาคารตามกฎหมายให้เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการพัฒนาเอสเอ็มอี
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น SME D Bank ยิ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นกลไกของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่ได้รับผลกระทบ ผ่านมาตรการเติมความรู้คู่ทุน โดย SME D Bank สนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ช่วยเสริมสภาพคล่อง รักษาการจ้าง เช่น “สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash” ครอบคลุมช่วยเหลือทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งทางตรง และทางอ้อม อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
และ “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน” นิติบุคคล อัตราดอกเบี้ย เพียง 2.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก และบุคคลธรรมดา อัตราดอกเบี้ย เพียง 4.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก ควบคู่กับมีมาตรการเติมความรู้เพิ่มศักยภาพ ยกระดับธุรกิจ ขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะผ่านอีคอมเมิร์ซ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง ช่วยให้เอสเอ็มอีเพิ่มรายได้ และสามารถปรับตัวก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้ด้วยดี