16 มีนาคม 2564 นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีหน้าที่ในการให้บริการขนส่งและสื่อสารของไทยที่เชี่ยวชาญและเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ของไทย ได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งระบบราง ภายใต้กระทรวงคมนาคม โดยการนำจุดเด่นของทั้งสองหน่วยงานไปบูรณาการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 3 ด้าน คือ
1.ไปรษณีย์ไทยรับมอบสิ่งของจากการรถไฟแห่งประเทศไทยไปนำจ่าย ณ ที่อยู่ผู้รับ จากเดิมที่ผู้โดยสารสามารถใช้บริการรถไฟบรรทุกสิ่งของเพื่อนำส่งให้กับผู้รับปลายทาง ซึ่งผู้รับจะต้องไปรับด้วยตนเองที่สถานีรถไฟในแต่ละพื้นที่ ปณท จึงได้ร่วมมือนำจ่ายสิ่งของจาก รฟท. ให้ถึงปลายทาง ซึ่งเป็นการสร้างความสะดวกสบาย และช่วยลดภาระด้านค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะการเดินทางให้คนไทย
2.การรับขนส่งถุงไปรษณีย์หรือสิ่งของด้วยรถไฟ ปณท ยกระดับการให้บริการขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย รฟท. จะรับขนส่งถุงไปรษณีย์ เพื่อความรวดเร็วในการจัดส่งสิ่งของที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
3.ขยายเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่ของสถานีรถไฟ ปณท เตรียมขยายเครือข่ายการให้บริการลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางด้วยรถไฟ ด้วยการเตรียมจัดตั้งที่ทำการไปรษณีย์หรือศูนย์กระจายสินค้าในพื้นที่ของ รฟท. เช่น สถานีพะเยา สถานีอรัญประเทศ และสถานีกลางบางซื่อ เป็นต้น
นายกาหลง กล่าวเพิ่มเติมว่า ปณท และ รฟท. ต่างเป็นหน่วยงานที่อยู่คู่คนไทยมาเป็นเวลานานจนถึงปัจจุบัน และทำหน้าที่เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคนไทยทุกภูมิภาคเข้าด้วยกัน ซึ่ง ปณท พัฒนาบริการการสื่อสารไปพร้อมกับการเจริญเติบโตของสังคม ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านจดหมาย และยกระดับไปสู่การขนส่งสิ่งของทั่วประเทศไทยและขยายไปถึงการขนส่งระหว่างประเทศ
ขณะที่ รฟท. ทำให้คนไทยใกล้ชิดกันผ่านการเดินทางด้วยรถรางเชื่อมเหนือจรดใต้ ไปจนถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ทำให้คนไทยสามารถไปมาหาสู่กันได้ง่ายยิ่งขึ้นความร่วมมือในครั้งนี้จึงเชื่อมั่นว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยได้อย่างมาก และเชื่อว่าในอนาคตทั้งสองหน่วยงานจะสามารถต่อยอดความร่วมมือด้วยกันมากขึ้น ทั้งในเรื่องการสื่อสารและการคมนาคม ตลอดจนการใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด และส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
“ไปรษณีย์ไทยมีเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับภารกิจขององค์กรไปสู่การเป็นหน่วยงานด้านโลจิสติกส์เพื่อสังคม ขยายขีดความสามารถของงานบริการให้มีความรวดเร็ว มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมขยายเส้นทางการขนส่งให้ครอบคลุมทั้งเส้นทางการบิน ระบบถนน และระบบราง เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ในอนาคต โดยความร่วมมือระหว่าง ปณท และ รฟท. ในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในอุตสาหกรรมการขนส่งและคมนาคมเติบโต อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการใช้บริการสาธารณะจากภาครัฐได้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุค e-Commerce อย่างเต็มตัว” นายกาหลง กล่าวสรุป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: