รายงานข่าวจากบริษัท “บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น” หรือ "bridgestone" ได้นำการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมาก หรือ "Big Data" มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูกยางพารา ซึ่งเป็นการใช้แนวทางเชิงวิชาการที่แนะนำโดยสถาบันคณิตศาสตร์เชิงสถิติขององค์กรการวิจัยสารสนเทศและระบบ ในประเทศญี่ปุ่น โดยระบบนี้จะวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการปลูกต้นยางพารา อาทิ ความสมบูรณ์ของดิน, การจัดการกับโรคพืช และศักยภาพในการขยายพันธุ์ต้นยาง
รวมถึงการคัดสรรพันธุ์ยางพาราที่ควรปลูก, ระยะเวลา, สถานที่และปริมาณการปลูก เพื่อเพิ่มผลผลิตยางพาราธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ตามพันธุ์ยางและฤดูกาลที่แตกต่างกันออกไปตามพื้นที่ ซึ่งระบบดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการสวนยางพาราของบริดจสโตน และกำลังถูกทดสอบในสวนยางพาราของบริษัทฯ ในประเทศอินโดนีเซีย
ยางพาราธรรมชาติผลิตจากต้นยางพารา ซึ่งเป็นวัสดุหลักในการผลิตยางรถยนต์ ที่มีการเพาะปลูกหนาแน่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประสบปัญหาโรคพืชและการตัดไม้ทำลายป่า บริดจสโตนจึงได้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นในปี 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดหาวัตถุดิบที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนด้วยการกระจายแหล่งยางพาราธรรมชาติ โดยในขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อันเนื่องมาจากวงจรชีวิตของต้นยางพาราตั้งแต่การจัดหาจนถึงการกำจัด
สำหรับระบบเอกสิทธิ์ของบริดจสโตนนี้ เกิดขึ้นจากแนวทางเชิงวิชาการในการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ (Mathematical Modelling) รวมกับความรู้ของบริดจสโตน ทั้งการบริหารจัดการสวนยางพารา การพัฒนาดิน การป้องกันโรค การคาดการณ์ผลผลิต ซึ่งช่วยให้สามารถคาดการณ์และรักษาสมดุลระหว่างการจัดหาทรัพยากรเพื่อเพิ่มผลผลิตการเพาะปลูก และอุปทานของยางพาราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต
บริษัทฯ ใช้ระบบใหม่ในการคาดการณ์ผลผลิตโดยอาศัยข้อมูลการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งได้สะสมมาจากประสบการณ์หลายปี นอกจากนี้ยังได้รวมองค์ประกอบการบริหารจัดการต่าง ๆ โดยอาศัยระบบอัลกอริทึม ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามสภาพการเปลี่ยนแปลงที่พบในแต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาการเพาะปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน ระบบดังกล่าวกำลังถูกทดลองในสวนยางพาราของบริษัทฯ ณ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งบริดจสโตนเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ที่มีมายาวนาน จนทำให้บริษัทฯ ทราบถึงข้อมูลความต่างในการปลูกยางพาราแต่ละพื้นที่ ภูมิภาค หรือในแต่ละประเทศ จะช่วยให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม นำไปสู่การเพิ่มผลตอบแทนที่สูงขึ้น ตลอดจนสามารถคงประสิทธิภาพนี้ไว้ได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน
“บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น” มุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผนวกรวมความรู้เกี่ยวกับยางที่เป็นเอกลักษณ์เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อร่วมสร้างคุณค่าผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ว่า “บริดจสโตนมุ่งมั่นส่งมอบคุณค่าแก่สังคมและลูกค้าในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืนให้สำเร็จภายใน พ.ศ. 2593"
พร้อมกำหนดเป้าหมายระยะกลางด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ที่ตั้งเป้าหมายไว้ภายใน พ.ศ. 2573 เพื่อกระตุ้นให้เกิด "การแยกส่วน" การเติบโตของธุรกิจของเราออกจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรที่เพิ่มขึ้น บริษัทส่งมอบโซลูชั่นผ่านนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการขนส่งที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมไปถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการตระหนักถึงเศรษฐกิจหมุนเวียนรวมไปถึงการใช้ทรัพยากรที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ในระยะยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“บริดจสโตน” ผวายางขาด หลังไทยลดจำนวนต้นยางลง
ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร จ่ายส่วนต่าง "ประกันราคายางพารา" งวด 5