ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนเมษายน 2564 โดยประเมินว่า สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพาราแผ่นดิบ สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม ด้านข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว น้ำตาลทรายดิบ ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง มีแนวโน้มราคาปรับลดลง
สำหรับสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่
- ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคา อยู่ที่ 8.22 - 8.32 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 2.30 - 3.50 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ แม้ว่าผู้ประกอบการจะมีการสต็อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บางส่วนแต่ยังไม่เพียงพอ ประกอบกับภาวะราคาข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการลดการนำเข้าข้าวสาลีมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์
- ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 58.75 – 59.50 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.21 – 2.50 เนื่องจากผลผลิตมีแนวโน้มลดลงจากการระบาดของโรคใบร่วงและยางพาราเข้าสู่ช่วงผลัดใบ ส่งผลให้เกษตรกรหยุดกรีดยางพารา ขณะที่ความต้องการน้ำยางพาราของตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคายางพาราอาจได้รับปัจจัยกดดันจากราคาตลาดล่วงหน้ามีความผันผวนและการขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า
- สุกร ราคาอยู่ที่ 76.72 - 77.68 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.09 – 2.35 เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้นจากกิจกรรมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลเช็งเม้ง ประกอบกับในช่วงฤดูร้อนส่งผลให้สุกรเจริญเติบโตช้าลง จึงต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงนานขึ้นกว่าจะได้น้ำหนักตามที่ตลาดต้องการ มีผลทำให้สุกรออกสู่ตลาดลดลง
- กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 148.00 – 149.00 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.68 – 1.36 เนื่องจากแนวโน้มผลผลิตลดลงจากการระบาดของโรคกุ้งและเกษตรกรชะลอการเลี้ยงลูกกุ้งในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลจะกระตุ้นให้ความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น