ตามที่ผู้ทำแผนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคำสั่งให้เลื่อนการประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ออกไปตามคำขอของเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมประชุมบางราย และกำหนดวันนัดประชุมเจ้าหนี้ครั้งใหม่ในวันนี้ (วันที่ 19 พฤษภาคม 2564) เวลา 09.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting)
บริษัทฯ ขอเรียนว่า ในการประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ในวันนี้ เจ้าหนี้ที่มีสิทธิออกเสียงเกือบทั้งหมดเข้าร่วมประชุม โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดสิทธิออกเสียงในที่ประชุมเจ้าหนี้ประมาณ 140,000 ล้านบาท ที่ประชุมเจ้าหนี้ได้มีมติตามมาตรา 90/46 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483
โดยมีเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันร้อยละ 91.56 ของจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมและร่วมออกเสียง ยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการที่ผู้ทำแผนได้ยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 และตามคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการจำนวน 3 ฉบับ ที่เสนอโดยผู้ทำแผนและเจ้าหนี้อีก 2 ราย กล่าวคือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด
ตามมติที่ประชุมเจ้าหนี้ซึ่งยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการและคำร้องขอแก้ไขแผนข้างต้นมีผู้บริหารแผน ดังนี้
1. นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ผู้ทำแผนฟื้นฟูการบินไทย
2. นายพรชัย ฐีระเวช รองปลัดกระทรวงการคลัง
3. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และกรรมการธนาคารกรุงเทพ
4. นายไกรสร บารมีอวยชัย อดีตอธิบดีกรมบังคับคดี และที่ปรึกษาด้านกฎหมายธนาคารกรุงเทพ
5.นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร คณะผู้ทำแผนฟื้นฟูและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)
อนึ่งศาลล้มละลายกลาง ได้กำหนดนัดไต่สวนเพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ซึ่งบริษัทฯ จะแจ้งให้ทุกท่านทราบถึงความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อไป
ทั้งนี้บริษัทฯ ขอขอบคุณเจ้าหนี้ทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นและยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการและมอบโอกาสให้การบินไทยสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อกลับมาเป็นองค์กรที่แข่งขันในตลาดได้ สามารถสร้างความภาคภูมิใจแก่ประเทศไทยและคนไทยในฐานะที่เป็นสายการบินแห่งชาติ ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับค่าตอบแทนจากการเป็นผู้บริหารแผน รวมกันจะได้รับไม่เกินปีละ 5 ล้านบาทต่อคน
ข่าวเกี่ยวข้อง: