นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมแบบมินิ 3 จังหวัดภูเก็ต-กระบี่-พังงา ต่อเนื่องจากการประชุมทีมเซลล์แมน จังหวัดภูเก็ต เพื่อบูรณาการ การท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ว่า ขณะนี้การส่งออกไทยอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ภาคการท่องเที่ยวที่เป็นกลไกสำคัญที่จำเป็นต้องเร่งรัด ซึ่งรัฐบาลเองมีโครงการนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตที่เรียกว่า ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ซึ่งจะเปิดดำเนินการวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเมื่อภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เริ่มต้นก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จังหวัดใกล้เคียงอย่างน้อยจังหวัดพังงาและจังหวัดกระบี่ ควรได้บูรณาการงานร่วมกันเพื่อรับนักท่องเที่ยวหรือรับไม้ต่อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาที่จังหวัดภูเก็ตและอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตเกินเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว
“ได้เชิญทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการค้ามาหารือร่วมกัน 3 จังหวัด คือ จังหวัดกระบี่ ภูเก็ตและพังงา ประเด็นสำคัญเพื่อเตรียมการบูรณาการ 3 จังหวัด เรื่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ซึ่งเป็นภูเก็ตโมเดล เริ่มต้นในการทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 การบูรณาการร่วมกันภายใต้เงื้อนไขที่ 3 จังหวัด ได้รับวัคซีนตามเป้าหมายที่กำหนดและมีการกระจายวัคซีนครบถ้วนตามเป้าหมาย ประกอบด้วยจังหวัดภูเก็ต เมษายน-สิงหาคม 930,000 โดสจังหวัดพังงา เมษายน-กันยายน 320,000 โดส และจังหวัดกระบี่ เมษายน-สิงหาคม 730,000 โดส คำนวณจากเป้าหมายที่ต้องฉีดวัคซีนร้อยละ 70 ตามกติกาที่ ศบค.กำหนดไว้”
อย่างไรก็ตามจากการหารือ ได้มีข้อสรุปร่วมกันใน4ประเด็น ประกอบ1.การกระจายวัคซีนในส่วนของจังหวัดภูเก็ตจะเร่งดำเนินการกระจายวัคซีนให้ครบร้อยละ 70 ตามเป้าหมายที่กำหนดภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพื่อเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ส่วนจังหวัดภูเก็ตกับพังงาจะเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ 70% ในพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษที่แต่ละจังหวัดกำหนดขึ้น เช่น เกาะพีพี เกาะเล เกาะไหง เขาหลัก เกาะยาว เป็นต้น เพื่อรับนักท่องเที่ยวเมื่อครบกำหนดกักตัวที่จังหวัดภูเก็ตจะได้มาท่องเที่ยวที่จังหวัดพังงาและกระบี่ต่อไป
2.กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดที่เรียกว่า sea route เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พ้นเวลากักตัวจากจังหวัดภูเก็ตเดินทางมาจังหวัดพังงากับกระบี่สามารถแวะตามจุดต่างๆที่กำหนดได้ ซึ่งจะประชุมต่อไปว่ามีจุดไหนบ้างและจะมีการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ในแต่ละจุด 3.ในที่ประชุมแจ้งว่าถ้าเป็นไปได้ขอให้ ศบค.ปรับเงื่อนไขการกักตัวจาก 14 วันเหลือ 7 วัน และ4.ประชุมได้มอบหมายให้จังหวัดพังงากับจังหวัดกระบี่เร่งดำเนินการเตรียมการเพื่อนำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์โมเดลไปขยายผลใน 2 จังหวัดต่อไป ในอนาคตถ้าประสบความสำเร็จ จะทำให้พื้นที่การท่องเที่ยวทั้ง 3 จังหวัด ภูเก็ต กระบี่และพังงากลายเป็นพื้นที่ “อันดามันแซนด์บ็อกซ์”ต่อไป เพื่อรองรับการท่องเที่ยวร่วมกัน โดยหลังจากนี้จะนำความเห็นของที่ประชุมเสนอต่อ ศบค.และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดินหน้า “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ครม.มีมติรับทราบ 1ก.ค.รับนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนโควิดครบโดส