ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.64 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าในช่วงแรก แต่พลิกแข็งค่ากลับมาอีกครั้งก่อนปิดตลาดปลายสัปดาห์ตามแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกท่ามกลางสัญญาณตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ แม้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 117.92 ล้านบาท แต่ก็ซื้อสุทธิพันธบัตรไทยต่อเนื่องถึง 1,312 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -23.81 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -20.41 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 34.40-34.90 บาทต่อดอลลาร์กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 34.40-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกและรายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนต.ค. ของไทย รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ สกุลเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีราคา PCE/Core PCE ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนต.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 (ครั้งที่ 2) ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 6-7 พ.ย.
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ของจีน และอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน