นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม MORHELLO เปิดเผยว่า “ไประเทศไทยตั้งเป้าที่จะเป็น Medical Hub เป็นศูนย์กลางการแพทย์ของโลก การแพทย์ของไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ณุศาศิริฯ มีแนวคิดรุกตลาดปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ Medical Technology จึงเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ ในนาม” NUSA TECH ที่ลุยงานด้านเทคโนโลยี่ AI เพื่องานวิจัยและเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ การรักษา
โดยได้ก่อตั้งแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสุขภาพและการแพทย์ ภายใต้แบรนด์ “MORHELLO” แพลตฟอร์มออนไลน์ที่จะเป็นศูนย์กลางในเรื่องสุขภาพและการแพทย์ แบบครบวงจร ที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงแพทย์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Morhello ได้ใกล้ชิดติดคุณหมอผ่านจอ คุณหมอมาตอบโจทย์ทุกข้อข้องใจ การรักษา การสั่งยา
และในช่วงสถานะการณ์โควิด ณุศาศิริฯได้ตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อทำวิจัย ทั้งด้านการท่องเที่ยวและการแพทย์ โดยจะเปิดแพลตฟอร์มในเดือนตุลาคมนี้พร้อมกับการเปิดประเทศ แต่วันนี้จำเป็นเปิดแพลตฟอร์มนี้เร็วขึ้น ภายใต้ความร่วมมือกับ รพ.พานาซี เพื่อช่วยปัญหาของประเทศที่กำลังมีอยู่
"เราจะใช้เทคโนโลยีเข้าไปถึงผู้ที่กำลังต้องการเข้าถึงการตรวจ คนที่ติดเชื้อพร้อมจะแพร่กระจายมีอยู่มากมาย เราเลยมองว่าสิ่งนี้มีความจำเป็น เทคโนโลยีจะเข้าไปช่วยคนที่สงสัยว่าตัวเองกำลังจะติดหรือไม่ติด เขาจะเดินไปทางไหนต่อ เรียกว่าถ้าเขายังอยู่ในสถานะสีเขียวเราไม่อยากให้ไปสู่สีเหลืองหรือสีแดงต่อไป เราอยากให้ Morhallo เป็นตัวช่วยในการให้คำปรึกษา แนะนำจากคุณหมอโดยตรงสั่งชุดตรวจด้วยตัวเองที่บ้าน ถ้าตรวจเจอต้องไปไหนต่อ ต้องเข้าสู่การตรวจ rt pcr เราก็จะประสานต่อกับ รพ.พานาซี ซึ่งในแพลตฟอร์มของเรา จะมีการ Consult คุณหมอให้ เพื่อจ่ายยาวิตามินโดสสูงต่างๆ ที่จะสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายมากขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยไม่ไปต่อ เข้าสู่สีเหลืองและแดง นั่นเป็นจุดประสงค์หลักของเรา"
ทั้งนี้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าใช้งานผ่านแอป หรือ www.morhello.com/home ได้เมื่อสงสัยว่าตัวเองติดเชื้อ หรืออยู่ในช่วง Home Isolation ก็สามารถเข้าไปปรึกษาคุณหมอ สั่งยา โดยมีคุณหมอคอยมอนิเตอร์กับผู้ป่วยจากคุณหมอโดยตรง ทำให้เราสามารถชะลอผู้ป่วยไม่ให้เข้าสู่สีเหลือง สีแดงได้ ทำให้สะดวก และปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงต่อการไปแพร่เชื้อ หรือรับเชื้อด้านนอกบ้าน เพราะภาพต่างๆที่เราเห็นผ่านสื่อฯ ที่คนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงการรักษา เตียงไม่พอที่จะรับผู้ป่วย เรียกว่าเกิดวิกฤติ”เตียงเต็ม”เนี่ย พี่คิดว่ามันทรมานใจพวกเรามาก"
ความร่วมมือกับ รพ.พานาซีครั้งนี้ จะมีการเปิดโดเนท เพื่อนำรายได้ที่ได้แผนกนี้ 25% ไปช่วยผู้ป่วยที่ไม่ได้พักที่พานาซี และต้องการความช่วยเหลือ ในการจัดหาวิตามินโดสสูงหรือ Supplement อื่นๆเข้าไปช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อสู้กับโควิด
ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งที่มีกำลังก็สามารถเข้ามารับบริการที รพ.พานาซี สิ่งสำคัญที่เราอยากจะทำให้สำเร็จคือ เราอยากให้แพลตฟอร์ม MORHELLOนี้ประสบความสำเร็จ เก็บเป็นงานวิจัย เก็บเป็นข้อมูลในการรักษาโรค เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดี มีการเรคคอร์ดโดย AI ที่จะเอาข้อมูลนี้ไปดูแลนักษาคนไทยต่อไป"
นพ.ตฤณ กระแสสังข์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล พานาซีพระราม 2 กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของ รพ.พานาซี ถ้าจะกล่าวจากปรัชญา จุดเริ่มต้นมาจากยุโรป โดยเฉพาะเยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์ แนวคิดนี้เริ่มต้นจากแพทย์ทางเลือกผู้ป่วยที่ได้รับความทรมานจากโรคร้ายต่างๆ รวมถึงการติดเชื้อต่างๆด้วย
ซึ่งแนวคิดหลัก คือการหาทางเลือกให้ผู้ป่วยโดยที่ให้ร่างกายของเราเองทำงานได้อย่างสมบูรณ์ทุกระบบ พร้อมที่จะสู้กับโรคภัยหรือการติดเชื้อ โดยเฉพาะในโควิด 19 ตอนนี้หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ที่ทำให้ผู้ป่วยมีผลข้างเคียง แนวคิดตรงนั้นจากพานาซีสาขาเยอรมันได้เกิดการถ่ายทอดมากับประเทศไทย ในไทยเองก็มีเกือบ 20 ปี แล้ว ในการถ่ายทอดแนวความรู้ทางด้านนี้ ก็เลยเป็นที่มาของการทำโรงพยาบาล พานาซี เกิดขึ้นมาแบบดั้งเดิม
จุดเด่นของโรงพยาบาลพานาซีที่ได้การยอมรับมาอย่างยาวนานในเรื่องการแพทย์ทางเลือก เพราะเราสามารถเอาองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้กับแพทย์แผนปัจจุบันได้ จุดเด่นที่ทำให้ผู้ป่วย คือการวิเคราะห์ผู้ป่วยแบบองค์รวม เริ่มตั้งแต่การวินิจฉัยโรค การซักประวัติผู้ป่วยแบบองค์รวมไม่สามารถใช้ระยะเวลาเพียง 5-10 นาทีได้
เราจึงใช้เครื่องมือบางอย่างที่เป็นนวัตกรรมของเยอรมัน AI body scan การตรวจวิเคราะห์ร่างกายทุกระบบ ดูว่าระบบไหนมีปัญหาส่งผลกับระบบอื่นบ้าง เช่น เรื่องของการติดเชื้อ โควิด 19 เราจะมีการใช้คล้ายๆคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าวิเคราะห์ก่อนว่าระบบภูมิคุ้มกันที่เสียหายมาจากอวัยวะส่วนอื่นด้วยหรือเปล่า จุดหลักๆที่ให้บริการผู้ป่วย คือ เป็นของเฉพาะบุคคล มีการปรับการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล มีเน้นกระตุ้นให้สเตมเซลล์ทำงานได้ดี และจะมีการใช้สมุนไพรเข้ามาช่วยผู้ป่วย พานาซี มีการยกระดับภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างภูมิคุ้มเพราะร่างการของเราเกิดมาพร้อมกับภูมิคุ้มกัน และร่างกายจะสามารถปรับตัวเมื่อมีเชื้อโรคเข้ามาใหม่
แต่ในส่วนของคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง จะสามารถติดเชื้อ โควิด 19 ได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ ทำให้เชื้อสามารถแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็ว มีโอกาสเสียชีวิตมากขึ้น การยกระดับภูมิคุ้มกันในปัจจุบัน เรามีการใช้วัคซีนเป็นตัวหลัก แต่ขณะเดียวกัน บางคนกลับไม่ตอบสนองกับวัคซีนที่ฉีดเข้าไป ทางพานาซีจะวิเคราะห์ว่า คนๆนี้มีภูมิคุ้มกันที่ไม่ดี สาเหตุเกิดจากอะไร เราจะทำให้ภูมิคุ้มกันตอบสนองได้อย่างเหมาะสม พานาซีจะวิเคราะห์ผู้ป่วยแบบองค์รวมที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันทั้งหมด
ในระยะแรกของการติดเชื้อ คือ ไวรัสจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็วปริมาณไวรัสที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้น ถ้ามี Platform ที่สามารถทำให้คนไข้กับหมอเจอกันจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและตรงจุด รีบรักษาเพื่อป้องกันการกระจายเชื้อ การที่ผู้ป่วยอยู่บ้านก็สามารถได้รับการปรึกษาจากหมอได้เหมือนกัน
และเมื่อติดเชื้อโควิดแพลตฟอร์มนี้จะทำการนัดคิวเข้ารับการตรวจได้ และถ้ามีการติดเชื้อ หรือขึ้นว่า Positive ทางโรงพยาบางจะแบ่งผู้ป่วยเป็น 2 สี สีเขียวและสีเหลือง และทางเราสามารถรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด 35 เตียง การแบ่งเป็น 2 สี เพื่อที่จะพยายามให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาและหายเป็นปกติได้เร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันแม้เราฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม บางประเทศก็มีการติดเชื้อมากขึ้น ปัญหาหลักคือไวรัส มีโปรตีนอยู่หลายแบบในตัวการเปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรมแค่จุดหรือ 2 จุด เขาก็สามารถกลายพันธ์ได้แล้ว ไวรัสโควิดนะนำหน้าไป 3-4 ก้าวเสมอ
เพราะฉะนั้นเราจะพัฒนาวัคซีนให้ได้นั้นเป็นเรื่องลำบากมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนไม่สำคัญ อย่างในปัจจุบันสายพันธ์เดลต้า เขาพัฒนาให้ติดเชื้อทางเดินหายใจมากที่สุด ก่อนหน้านี้แพร่เชื้อทางละอองฝอยในระยะ 2 เมตร แต่ปัจจุบันสายพันธ์ใหม่ มันจะฟุ้งกระจายได้มากขึ้น เรียกได้ว่ามีละอองพ้นเป็นแอร์บอร์นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นการพัฒนาวัคซีนเลยไม่ทัน จากในอิตาลีเขาใช้ สเตมเซลล์เป็นทหารเอกที่จะมาช่วยฆ่าตัวไวรัส นี่เป็นที่มาที่ว่า ทำไมเราเราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้นำหน้าไวรัสเสมอ อย่างเช่น
จากผลงานวิจัย วิตามินที่เราสามารถหามาทานได้เอง คือ C,E,A,D3 เป็นวิตามินที่ช่วยลดการติดเชื้อได้ แต่อาจจะต้องกินตัวที่เพิ่มขึ้นหน่อยเพราะฉะนั้นในแต่ละคน ผมไม่อยากให้ใช้ตัวเดียวกัน ทางที่ดีผลอยากให้คำปรึกษาเข้ามาทางหมอฮัลโหลก่อน เราจะมีทีมแพทย์คอยให้คำแนะนำ รวมถึงการกินเพื่อป้องกัน ในกรณีที่ติดเชื้อแล้ว ถ้ามีปัญหาเรื่องเลือดหนืด ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด เกิดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมองมากขึ้น ถ้ามีการใช้ตัวโอเมก้า 3 ในโดสที่สูงขึ้น การสร้างภูมิคุ้มกันเหล่านี้ เพื่อจะได้ลดการสูญเสียได้มากขึ้น
ทางด้าน Dr.Michael W.Trogisch ผู้เชี่ยวชาญจาก BIO MAXX Holding Ltd.(Hong Kong) “เราใช้การแพทย์บูรณาการของประเทศเยอรมันมาใช้ในประเทศไทย การแพทย์เชิงบูรณาการคือการหาวิธีรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายเราไม่ได้ใช้การแพทย์แบบเดิมหรือว่าใช้การแพทย์จากธรรมชาติเสียทีเดียว แต่เราเลือกการรักษาที่ให้ผลที่ดีที่สุด เราผสมผสานเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันโดยใช้สมุนไพรไทยที่มีมากมาย อาทิ ขมิ้นชัน ฟ้าทลายโจร กระชาย หรือ ขิง ซึ่งเราจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุง หรือใช้คำว่า เฮิร์บ คือสมุนไพรของประเทศไทย เรานำมาสร้างภูมิให้ร่างกาย การที่เราจะนำวิตามินเข้าสู่ร่างกายของเราก็อาจจะทั้งใช้การรับประทาน หรือต้องใช้ IV หรือการนำวิตามินทางเส้นเลือดของเราเพื่อให้ไปช่วยระบบภูมิคุ้มกันของเราสามารถเข้าไปต้านทานการเกิดโรคได้ดีขึ้น หรืออาจจะทำให้ระยะเวลาการรักษาของเราสั้นขึ้น ลดการสูญเสียชีวิตได้มากขึ้น